Pages

Tuesday, January 29, 2013

Mierce Miniatures - Darklands Kickstarter


Only 16 days left to support this campaign. Anyone who has pledged for a starter set in this moment, will received at least 2 miniatures for free. (or more if they can reach another stretch goals J)
For more details of this campaign -[ Click Here ]-

Monday, January 28, 2013

Graffiti Production - Thai Armed Forces Day

เมื่อวันที่ 18 มกราคม ที่ผ่านมา ผมกับกลุ่มเพื่อนๆได้ร่วมกันทำกราฟฟิตี้เนื่องในโอกาสวันกองทัพไทย แถวบริเวณสี่แยกเหม่งจ๋าย (แยกประชาอุทิศ) โดยหัวข้อในการทำงานจะเป็นการนำลายพรางมาใช้ตกแต่งเป็นลวดลายภายในผลงาน ตามแรงบัลดาลใจและมุมมองที่มีเกี่ยวกับลายพรางของแต่ละคน ผลงานที่ออกมาจึงแตกต่างกันในเรื่องรูปแบบของลายพรางและสีสันที่ใช้ แต่ในภาพรวมแล้วยังคงเป็นเรื่องเดียวกันอยู่ และนี่คือภาพผลงานของแต่ละคนครับ J

DEA (DB-K)


BIGDEL (ESA)

ARES (EDK from Switzerland)

GOH M (ESA)

TG (DB-K)

BOHER (SP from France)

----------------------------------------------------------



นอกจากนี้ ในการทำงานร่วมกันครั้งนี้ ทางรายการ ART VENTURE ยังได้มาถ่ายทำเทปรายการเพื่อนำไปออกอากาศในทรูวิชั่นอีกด้วยครับ J
ติดตามชมรายการ ART VENTURE ได้ทางช่อง Travel Channel Thailand - TrueVision 73 ทุกวันจันทร์ เวลา 23.00-23.30 น.
หรือติดตามความเคลื่อนไหวและชมเทปรายการย้อนหลังได้ทาง 

Friday, January 25, 2013

ALEX FACE & JACE - Graffiti Exhibition


วันที่แสดงงาน: ตั้งแต่วันที่ 28 มกราคม 2556 เป็นต้นไป
งานเปิดนิทรรศการ : วันพฤหัสบดีที่ 31 มกราคม 2556
สถานที่: ชั้นสองของสมาคมฝรั่งเศส กรุงเทพ
เข้าชมฟรี
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่โทรศัพท์ 02-670-4231 หรืออีเมล chalanthorn.kidthang@alliance-francaise.or.th
www.gouzou.net และ www.facebook.com/Alexokizoo

Thursday, January 24, 2013

ภาพบรรยากาศงาน Siam Street Fest 2012

ผมพึ่งจะมีโอกาสได้นำภาพบรรยากาศภายในงาน Siam Street Fest ที่จัดขึ้นในสยามสแควร์ เมื่อวันเสาร์และอาทิตย์ที่ 22-23 ธันวาคม ของปีที่ผ่านมา (2012) มาลง เนื่องจากต้องรอภาพจากในกล้องของเพื่อน เลยทำให้ลงภาพล่าช้าไปร่วม 1 เดือน J
ซึ่งในงานนี้ ตัวผม (TGและเพื่อนของผม เด๊ะ (DEAได้มีโอกาสร่วมแสดงผลงานการเพนท์ผนัง เพื่อตกแต่งภายในพื้นที่ของสยามสแควร์ด้วย โดยในส่วนของการตกแต่งผนังจะเป็นกิจกรรม Art on Wall @ Siam Square ซึ่งมีศิลปิน 11 กลุ่มมาร่วมกันแสดงผลงานตามกำแพงต่างๆ 11 จุด ตามสไตล์การทำงานของแต่ละทีม ส่วนทีมของผมได้พื้นที่กำแพงด้านหลังของร้าน OOTOYA ติดกับถนนด้านหลังของสยาม ใกล้ๆกับศูนย์หนังสือจุฬาครับ ใช้เวลาในการทำงาน 5 วัน ทำออกมาในรูปแบบของงาน Graffiti กับคอนเซ็ป อิสระทางความคิดสร้างสรรค์ และก้าวออกจากกรอบทางความคิด เพื่อค้นหาแนวทางใหม่ๆในการทำงานครับ และนี่คือภาพผลงานที่เสร็จแล้วครับ










และ เนื่องจากทั้งสองวันผมต้องเพนท์ผนังอยู่ตลอด จึงแทบไม่มีเวลาได้ไปเดินดูงานเลย จะมีก็ช่วงค่ำวันอาทิตย์ที่ทำงานเสร็จแล้ว จึงได้มีโอกาสไปดูการแสดงต่างๆบ้างและเก็บภาพมาให้ชมกันบางส่วนครับ
















ส่วนตัวแล้วผมรู้สึกประทับใจกับงานนี้หลายๆอย่าง (นอกเหนือไปจากที่ได้ร่วมแสดงการเพนท์ผนัง J) เนื่องจากการแสดงหลายๆอันที่ได้ดูนั้นสนุกสนานมากๆครับ ทั้งเรียกเสียงหัวเราะ ตื่นตาตื่นใจ และน่าประทับใจที่ได้เห็นการแสดงแบบนี้ในบ้านเรา ซึ่งหาดูได้ยากมาก และมากันเยอะมากๆจนดูได้ไม่ครบทุกรายการ อีกอย่างก็คืองานนี้จัดในช่วงที่อากาศกำลังเย็นสบาย ทำให้ในวันงานนั้น แม้คนจะเยอะแต่ก็ไม่รู้สึกร้อนอบอ้าวแต่อย่างใด ผมชอบบรรยากาศของงานแบบนี้ ดูแล้วรู้สึกว่าอบอุ่นและเป็นกันเองดี เหมาะสำหรับครอบครัว คู่รัก หรือว่าเพื่อนฝูง ที่จะได้มีความสุขร่วมกันในช่วงปลายปี (แบบสบายกระเป๋า เพราะว่าดูฟรี :D) และหวังว่าช่วงปลายปี 2013 นี้ จะมีงานดีๆแบบนี้เกิดขึ้นอีกนะครับ ถ้าทราบข่าวของงานนี้อีกเมื่อไหร่ผมจะนำมาบอกต่อกันอีกทีแน่นอนครับ  J

Tuesday, January 15, 2013

My Scratch Built Project

Back in the early year of 90’s (right – that’s 20 years ago!), it was a golden age of scale modeling in Thailand. Competitions, as well as exhibitions, were held each year. Within those events, you could see hundreds of entries from various categories. Amongst those categories, I personally like the “Imaginative Robots/Vehicles” which entrants could freely enter with available sci-fi models sold back then. Alternatively, they could also combine parts from multiple kits to create their own version of designs as well. No restrictions were involved in creating your entry and the judge would select the best pieces to win based solely on the level of creativity.

Sadly, however, these kinds of events were cancelled a few years later due to problems related to budget and the declining popularity for scale model in the country itself. As the modeling exhibition/competition ceased to exist, so did the imaginative robots/vehicles competition. Even though the hobby itself seemed to make a comeback (albeit slowly) and modeling competitions were held in the country again in recent years, the focus was mainly towards more popular genres like scale models, such as military ships, aircrafts, and tanks, as well as mechas from the well-known Japanese animation series “Gundam”. To me, it seems like there’s no place in the event for those “imaginative robots/vehicles” anymore.
As for myself, I like this competition category a lot. It enables me to create works that are not bound by any rules. And working that way is very entertaining, especially when you look at a pile of broken pieces and try to make things out of them. When you put the parts together and your creative mind tries to figure out how these pieces could become something more. These are pleasant moments when you let your mind goes free. I have invented many pieces of work from scrap piles in the old days. But, as time passed, some of them broke while many others went missing. Only two of them survived well enough until now. Here they are;

ย้อนกลับไปเมื่อ 20 กว่าปีก่อน (1991-1992) เป็นยุคที่วงการโมเดลในประเทศไทยนั้นได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง มีการจัดประกวดโมเดลเป็นประจำทุกปี และมีชิ้นงานที่เข้าร่วมประกวดจำนวนหลายร้อยชิ้น หนึ่งในประเภทของการประกวดที่ผมชื่นชอบมากที่สุดคือ ยานหรือหุ่นยนต์ในจินตนาการ ซึ่งคนที่ร่วมประกวดในประเภทนี้ สามารถนำโมเดลหุ่นยนต์ประเภทต่างๆที่มีขายมาทำสีเพื่อร่วมประกวด หรือจะใช้การนำเศษชิ้นส่วนของโมเดลต่างๆ มาประกอบรวมกันให้กลายเป็นยานหรือหุ่นยนต์ตามแต่จินตนาการของเขาก็ได้ โดยที่ไม่มีข้อจำกัดใดๆในการสร้างผลงาน ทั้งเรื่องของขนาดหรือยี่ห้อของตัวโมเดล และตัดสินกันที่งานของใครแสดงความคิดสร้างสรรค์ในการสร้างผลงานได้ดีกว่ากัน หลังจากนั้นไม่กี่ปี การประกวดโมเดลประจำปีก็ถูกยกเลิกไป ด้วยเรื่องของงบประมาณในการจัดงาน รวมไปถึงความนิยมในงานอดิเรกประเภทนี้ที่ค่อยๆลดน้อยลง  การประกวดในประเภท ยานหรือหุ่นยนต์ในจินตนาการจึงได้หายไปจากประเทศไทยตามไปด้วย ถึงแม้หลายปีให้หลังจะมีการจัดงานประกวดประจำปีในประเทศไทยขึ้นมาอีก แต่ก็จะเน้นไปที่ประเภทที่ได้รับความนิยมมากกว่า เช่น เครื่องบิน เรือ รถถัง รถยนต์ หรือหุ่นยนต์จากการ์ตูนเรื่องกันดั้ม ส่วนประเภท ยานหรือหุ่นยนต์ในจินตนาการ ได้หายไปจากการประกวดในประเทศไทยมาหลายปีแล้ว
ตัวผมเองชอบงานประกวดประเภทนี้มากๆ เพราะเป็นการสร้างผลงานที่ได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์แบบเต็มที่ ทำให้การทำงานนั้นสนุกมาก โดยเฉพาะเวลาที่นำเศษชิ้นส่วนหรือโมเดลเก่าๆหลายๆประเภท ที่พังแล้ว มาลองวางประกอบกันดู แล้วจินตนาการว่า ส่วนนี้จะกลายไปเป็นอะไรได้ นั่นเป็นช่วงเวลาที่สนุก และได้ปลดปล่อยจินตนาการของเราไปอย่างอิสระโดยที่ไม่ต้องยึดติดกับข้อจำกัดใดๆในการทำงาน ผมเคยได้ทำงานแบบนี้เอาไว้หลายชิ้น ในช่วงที่ยังมีชิ้นส่วนเหลือๆเก็บเอาไว้เยอะ มาถึงตอนนี้ที่เหลือรอดผ่านกาลเวลามา มีเพียงแค่ 2 ชิ้นที่นำมาให้ชมกัน


This one was the last of the custom-made pieces I created and dated back to 2003. It was the piece I worked to enter in the last “Imaginative Robots/Vehicles” competition. My inspiration came from the AT-ST or “All Terrain Scout Transport” as seen in the film “Star Wars: Episode V - The Empire Strikes Back”. I combined the concept of the AT-ST with Toriyama’s more comic mechanic design. (For those who wondered, Akira Toriyama was the manga artist who wrote Dr. Slump, as well as Dragon Ball.)
Parts used were mostly taken from plastic Gundam kits. Although some parts were taken from the chassis of 1/12 scale bike model as well as some 1/35 AFV parts. In my opinion, this is the best custom-built model I ever created – everything seems to go together well and it feels right.

ตัวแรกนี้ เป็นงานประเภทสร้างขึ้นมาเองชิ้นสุดท้ายที่ผมทำเอาไว้เมื่อปี 2003 เพื่อส่งประกวดในงานสุดท้ายที่มีประเภทของ ยานหรือหุ่นยนต์ในจินตนาการ ให้ได้เข้าร่วม ซึ่งผมได้แรงบันดาลใจจากตัวหุ่นยนต์ AT-ST (All Terrain Scout Transport ) ในเรื่อง Star Wars The Empire Strikes Back บวกกับภาพลายเส้น เมคานิคดีไซน์ของ Akira Toriyama ผู้เขียนการ์ตูนเรื่อง Dr. Slump และ Dragon Ball  โดยชิ้นส่วนที่นำมาประกอบกัน ส่วนใหญ่จะเป็นชิ้นส่วนของหุ่นยนต์จากเรื่องกันดั้ม บวกกับตัวถังของรถมอเตอร์ไซค์ขนาด 1/12 และชิ้นส่วนของโมเดล AFV ขนาด 1/35 ชิ้นนี้เป็นงานที่คิดว่าดูลงตัวที่สุดแล้วเท่าที่เคยทำมา และยังอยู่ในสภาพดีจนถึงปัจจุบัน









For the second one, I think I worked on this one during 1997-2000 or so. I got the basic concept from some sci-fi manga (anime?) which I can’t remember anymore. Anyway, the idea is to try creating my own version of single-wheel bike or “monobike”. I used parts mainly from 1/12 scale bike and combine them with parts from 1/24 scale automobile. Additional parts from Gundam kits, AFV robots, as well as engine exhaust from 1/48 scale military aircraft were also used. You may notice from the pictures above that some parts have fallen off missing. I think I might spend some free time fixing it to make it look more completed.

ส่วนงานนี้น่าจะทำเอาไว้ในช่วงปี 1997-2000 ได้ไอเดียจากการ์ตูน sci-fi ซักเรื่องที่ผมจำที่มาไม่ได้แล้ว แต่อยากจะลองทำมอเตอร์ไซค์ที่มีล้อเดียวในรูปแบบของตัวเองดูบ้าง โดยชิ้นส่วนส่วนใหญ่จะมาจากโมเดลรถมอเตอร์ไซค์ขนาด 1/12 และรถยนต์ขนาด 1/24 รวมกับชิ้นส่วนของโมเดล AFV หุ่นยนต์จากกันดั้มและท่อไอเสียเครื่องบิน 1/48 สำหรับสภาพในตอนนี้มีชิ้นส่วนหลุดและหายไปบางส่วน ถ้ามีโอกาสก็อยากที่จะนำกลับมาทำสีและตกแต่งใหม่อีกรอบเพื่อให้มันสมบูรณ์ขึ้น



To make custom pieces like these two, you may need a reasonably large amount of leftover parts so that you have at least some options to experiment and play with. I wish I could do stuffs like these again. Because, right now, with increased experiences, skills, and a different point of view than before, I want to know what I would do. What I could achieve. And, lastly, how would it turn out.
Hope you enjoy my post today. HAPPY MODELLING, everyone! J

การทำงานประเภทนี้ อาจจะต้องมีชิ้นส่วนเหลือใช้ที่เก็บเอาไว้มากพอสมควร เพื่อที่เราจะได้เลือกนำชิ้นส่วนต่างๆมาลองวางประกอบกันดู ให้ตรงตามจินตนาการที่เราคิดเอาไว้ ในอนาคตถ้ามีโอกาส ผมก็ยังอยากจะทำงานแบบนี้อีกซักครั้ง เพราะด้วยประสบการณ์ที่มากขึ้น ทำให้มีทักษะในการประกอบและทำสีที่ดีขึ้น และมุมมองในการทำงานก็จะแตกต่างออกไป ผมจึงอยากที่จะรู้ว่า ถ้าผมได้ทำงานแบบนี้อีก แล้วมันจะออกมาเป็นแบบไหน
หวังว่าคงจะชอบกันนะครับ Happy Modelling ครับทุกๆท่าน J

(Translated by Krittadhi Boonvichitr (ZAlpha)