Rinaldi Studio Press: https://www.rinaldistudiopress.com/
Price: $25.00
136 pages
Reviews in English:
The Ghost of Zeon (YouTube)
Zaku Aurelius (YouTube)
Model Geek
สวัสดีครับ หนังสือเล่มแรกที่จะมารีวิวให้ชมกันเป็นหนังสือของทาง Rinaldi Studio Press เป็นค่ายหนังสือที่มีชื่อเสียงมากในการทำหนังสือสอนทำสีและเวทเธอริ่งโมเดลต่างๆ โดยเฉพาะโมเดลประเภทยุทธยานยนต์ ซึ่งทั้งหมดเป็นผลงานของ Michael Rinaldi โมเดลเลอร์ที่มีชื่อเสียงมาอย่างยาวนานในการทำโมเดลยุทธยานยนต์และเคยได้รับรางวัลจากงานประกวดต่างๆมาแล้วมากมาย
หนังสือในซีรีส์ SM (Single Model) แต่ละเล่มจะเจาะจงไปที่การทำโมเดลหนึ่งชิ้นตั้งแต่ขั้นตอนการประกอบ ทำสี เวทเธอริ่งจนจบผลงาน ซึ่งในแต่ละฉบับก็จะมีหัวข้อของโมเดลที่นำมาทำแตกต่างกันไปตามความสนใจของผู้เขียน อย่างใน SM ฉบับที่ 3 นี้ก็จะเป็นหัวข้อในการทำโมเดลหุ่นยนต์ประเภทกันดั้มพลาสติกโมเดล หรือที่เรียกกันสั้นๆว่ากันพลา ที่ตัวผู้เขียนบอกว่าสนใจเรื่องของการ์ตูนและอนิเมต่างๆมานานแล้วแต่ไม่เคยมีโอกาสได้ทำงานโมเดลประเภทนี้ นี่จึงเป็นครั้งแรกของตัวผู้เขียนเองที่ได้ลองทำและเขียนบอกเล่าวิธีการทำงานต่างๆของงานกันพลาในแบบของเขา
ดังนั้นเนื้อหาภายในฉบับนี้จึงพิเศษกว่าฉบับก่อนๆหน่อยตรงที่มีการทำโมเดลที่ต่างกันสองตัว คือ Rick Dome ในมาตราส่วน 1/144 (HG) สำหรับเป็นตัวทดลองเทคนิคการทำสีต่างๆเพื่อให้ได้ผลลัพท์แบบที่พอใจ ก่อนที่จะนำไปทำลงบนงานชิ้นหลักคือ Sazabi ในมาตราส่วน 1/100 (MG) ในภายหลัง
ขนาดของหนังสือเล่มนี้จะไม่ใหญ่มาก ใหญ่กว่ากระดาษขนาด A5 เล็กน้อย ประมาณ 19x16 เซ็นติเมตร มีความหนา 136 หน้า ภายในเล่มพิมพ์ด้วยกระดาษอาร์ตมัน ส่วนปกหน้าหลังเป็นกระดาษเนื้อแข็งผิวด้าน ราคาหนังสือหน้าเว็บบวกค่าส่งต่างประเทศ $30.00 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 1,000 บาท
เนื้อหาภายในเล่ม - โดยรวมจะแบ่งออกคร่าวๆเป็น 5 ส่วน
1. ส่วนของการทำโมเดล Rick Dome ที่ใช้เป็นตัวทดลองการทำสีและเวทเธอริ่ง โดยจะอธิบายเทคนิคหลักๆที่ใช้ในการทำโมเดลทั้งสองชิ้นคือ Hair Spray Technique (HS) หรือการทำสีกระเทาะและรอยถลอกต่างๆด้วยน้ำยาฉีดผม และ Oil Paint Rendering (OPR) หรือการทำเวทเธอริ่งด้วยการใช้สีน้ำมัน
2. ส่วนของการทำโมเดล Sazabi การประกอบ การทำสีรองพื้นและสีหลัก
3. การใช้ Hair Spray Technique (HS) บนตัวโมเดล Sazabi เพื่อทำสีกระเทาะและรอยถลอกต่างๆ รวมถึงการกั้นพ่นเครื่องหมายและการติดดีแคล
4. การเวทเธอริ่งหรือการทำคราบสกปรกต่างๆให้เหมือนสภาพที่ผ่านการใช้งาน ลงบนตัวโมเดล Sazabi โดยใช้เทคนิคสีน้ำมัน Oil Paint Rendering (OPR) เป็นหลัก ที่สามารถทำได้ทั้งคราบน้ำมัน คราบสนิม คราบรอยเปื้อนรอยสกปรกต่าง รวมถึงคราบดิน ฝุ่น และการทำให้สีพื้นนั้นดูซีดจาง
5. Gallery รวมภาพผลงานที่เสร็จสมบูรณ์ท้ายเล่ม
เอกลักษณ์หนึ่งของหนังสือจากค่ายนี้ คือนอกเหนือจากเขียนอธิบายการทำงานแบบละเอียดแล้ว ในส่วนเนื้อหาที่สำคัญจะมีกรอบหน้าต่างที่ใช้อธิบายวิธีคิดในการทำงานเพิ่มขึ้นมาคือ "W (Why)" ที่อธิบายถึงเหตุผลของการทำ และ "H (How)" ที่อธิบายวิธีหรือเทคนิคที่ใช้เพื่อให้ได้ผลลัพท์ในแบบที่ต้องการ
นอกจากนี้ก็จะใช้สัญลักษณ์วงกลมขนาดเล็ก เพื่อวงส่วนที่สำคัญในภาพที่กำลังถูกพูดถึงอยู่ในการอธิบายของหน้านั้นๆ
ในส่วนเนื้อหาของหนังสือ จะเป็นหนังสือที่ใช้การเขียนอธิบายเยอะและค่อนข้างละเอียดทั้งในเรื่องของวิธีคิดที่นำมาใช้ เทคนิคในการทำงานต่างๆ รวมถึงมุมมองของตัวผู้เขียนเองที่มีต่อการทำงานในแต่ละส่วน
ดังนั้นหนังสือเล่มนี้จึงเป็นหนังสือที่เน้นเรื่องของการอธิบายผ่านทางตัวอักษรค่อนข้างมาก แม้จะมีรูปภาพในเล่มมากพอสมควร แต่จะมีรูปภาพในแบบ Step-By-Step (SBS) หรือการอธิบายขั้นตอนไปทีละขั้นพร้อมกับรูปภาพ แค่ในบางขั้นตอนเท่านั้น เช่น การทำ HS หรือ OPR แต่โดยรวมแล้วการอธิบายวิธีการต่างๆนั้นก็ทำออกมาได้ดีมาก และรูปภาพประกอบต่างๆก็เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้เข้าใจวิธีการทำได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะในส่วนสำคัญที่จะอธิบายวิธีการอย่างละเอียดพร้อมกับภาพประกอบแบบทีละขั้น
ความคิดเห็นส่วนตัว - ผมเลือกหนังสือเล่มนี้มารีวิวก่อนเพราะคิดว่ามันน่าสนใจที่ได้เห็นมุมมองของผู้เขียนในการทำงานประเภทที่ต่างไปจากเดิม รวมถึงตัวผมเองก็กำลังสนใจการทำสีงานประเภทหุ่นยนต์อยู่จึงอยากที่จะศึกษาแนวทางการทำงานเอาไว้
และเนื่องจากหนังสือเล่มนี้พึ่งออกวางจำหน่ายได้ไม่นาน และเป็นหนังสือที่มาจากค่ายที่ทำหนังสือเกี่ยวกับยุทธยานยนต์เป็นหลัก จึงอาจจะมีคนรู้จักไม่มากนัก เลยอยากจะนำมาแนะนำให้ชมกันครับ
หากคุณกำลังสนใจเรื่องของการเวทเธอริ่งโมเดลประเภทหุ่นยนต์ นี่คือหนังสือที่ดีมากเล่มหนึ่งที่อธิบายขั้นตอนในการทำงานและวิธีคิดได้อย่างละเอียดและเป็นระบบ ผ่านมุมมองของคนที่ทำงานเวทเธอริ่งแบบสมจริงด้วยเทคนิคแบบเดียวกับที่ใช้ในงานประเภทยุทธยานยนต์ และอธิบายให้เข้าใจถึงที่มาที่ไปของการใช้เทคนิคต่างๆในการเวทเธอริ่งแต่ละขั้นได้เป็นอย่างดี
อย่างไรก็ตามเนื่องจากหนังสือเล่มนี้จะเป็นการโฟกัสไปที่โมเดลเพียงชิ้นเดียว ความหลากหลายของเทคนิคที่นำมาใช้และการอธิบายถึงที่มาของเทคนิคต่างๆจะไม่ละเอียดมากนัก แต่จะเน้นไปที่การอธิบายวิธีทำมากกว่า ซึ่งต่างจากหนังสือ Tank Art ของค่ายเดียวกัน ที่จะมีการทำโมเดลในเล่มหลายชิ้นและมีเทคนิคในการทำงานที่หลากหลายกว่า รวมถึงอธิบายเกี่ยวกับเทคนิคต่างๆเอาไว้อย่างละเอียดมากกว่าด้วย
ดังนั้นหากผู้อ่านยังไม่มีประสบการณ์ในการเวทเธอริ่งใดๆมาก่อนเลย อาจจะต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องของการเวทเธอริ่งและศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมเพื่อที่จะได้เข้าใจหลักการในการเวทเธอริ่งได้ดีมากขึ้น
ที่สำคัญต้องเข้าใจว่านี่ไม่ใช่หนังสือประเภทที่เน้นรูปภาพใหญ่ๆและเขียนอธิบายประกอบในภาพแต่ละขั้นแบบ SBS แต่เป็นหนังสือที่ต้องอาศัยการอ่านทำความเข้าใจบทความภาษาอังกฤษประกอบกับการดูรูปภาพ จึงจะช่วยให้เข้าใจถึงสิ่งที่เขาอธิบายได้อย่างเข้าใจ ดังนั้นหากทักษะทางด้านภาษายังไม่ดีนักก็อาจจะรู้สึกท้อกับตัวหนังสือจำนวนมากภายในเล่มได้ง่ายๆ
แต่ถ้าใช้ความอยากรู้อยากเรียนมาเป็นแรงผลักดันให้พยายาม หนังสือเล่มนี้ก็จะช่วยในการฝึกอ่านภาษาอังกฤษได้เป็นอย่างดี เพราะมันเป็นเรื่องที่เราชอบและสนใจที่จะเรียนรู้ ยิ่งอยากรู้มากก็จะยิ่งพยายามมากเอง ที่ผ่านมาตัวผมเองก็ใช้วิธีนี้ในการฝึกฝนภาษาเช่นกัน คอยเปิดดิกแปลตลอดเวลาอ่านก็จะช่วยได้มาก พอทำบ่อยๆเข้าเราก็จะจำได้ดีขึ้นเองครับ
ก็หวังว่าบทความรีวิวนี้คงจะเป็นประโชยน์ช่วยในการตัดสินใจซื้อได้บ้างไม่มากก็น้อยนะครับ ตอนแรกก็ตั้งใจว่าจะเขียนไม่ยาว ไปๆมาๆกลับกลายเป็นบทความรีวิวที่ยาวมากๆ และใช้เวลาไปไม่น้อยเลย ฮ่าๆ ขอบคุณทุกๆท่านที่อดทนอ่านกันครับ ไว้มีโอกาสอีกเมื่อไหร่จะมารีวิวหนังสือเล่มต่อไปให้ชมกันครับ
หากสนใจหนังสือเล่มนี้ลองเข้าไปสั่งซื้อได้ที่เว็บของ Rinaldi Studio Press ครับ
https://www.rinaldistudiopress.com/
Pages
▼
Wednesday, October 4, 2017
Tuesday, October 3, 2017
In progress, October 2017
Hello everyone! I'm so sorry for haven't posted any updates on my work for a while. I haven't painted anything since I got back from Chicago in July. My day job is so busy at the moment and it took most of my free time.
However, I still have a few projects that are ready to paint waiting on my desk, some of them I've planned to do since last year. Hopefully, I'll find some free time to finish at least a couple of them before the end of this year. I'll post any updates on my work as soon as possible, see you again soon. ;)
สวัสดีครับ ช่วงที่ผ่านมาต้องขอโทษด้วยจริงๆครับที่ไม่ได้ลงความคืบหน้าใดๆของงานตัวเองที่ตั้งใจจะทำ เนื่องจากงานอาชีพที่ทำอยู่นั้นยุ่งจริงๆจนแทบไม่มีเวลาว่างให้กับงานส่วนตัว ผมยังไม่มีโอกาสได้เพนท์อะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลยตั้งแต่กลับจากงานที่ชิคาโกเมื่อเดือนกรกฎาคมครับ
วันนี้เลยอยากนำภาพงานที่เตรียมจะทำไว้มาให้ชมไปพลางๆก่อนครับ จะเห็นว่างานที่เตรียมจะทำนั้นค่อนข้างหลากหลาย ทั้งแนวทหาร ประวัติศาสตร์ ไซไฟ แฟนตาซี ผมเอาหมดครับ ฮ่าๆๆ ที่เห็นมีหลายๆชิ้นนี่บางชิ้นวางแผนเอาไว้ว่าจะทำตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่เปลี่ยนใจไปทำงานชิ้นอื่นก่อนก็เลยยังคงรออยู่ในตู้แบบนี้
ส่วนตัวเวลามีเวลาว่างเล็กๆน้อยๆก็จะเอาโมเดลที่อยากจะทำ(ในตอนนั้น) มาประกอบอุดขัดให้เรียบร้อย แล้วพ่นสีรองพื้นรอไว้สำหรับพร้อมนำไปทำสี แต่ด้วยที่ผ่านมาไม่มีเวลาว่างยาวๆสำหรับนั่งเพนท์สี ก็เลยได้แต่ทยอยประกอบอุดขัดเตรียมไว้จนเยอะอย่างที่เห็นครับ จริงๆยังมีตัวอื่นๆอีกที่ทยอยทำเตรียมไว้ก่อนนำไปทำสี ถ้ามีโอกาสคงจะนำภาพมาลงอีกทีครับ
ในปีนี้ตั้งใจว่าจะทำให้เสร็จอย่างน้อยสักสองชิ้นจากที่เตรียมไว้พร้อมสำหรับทำสี ถ้ามีโอกาสได้เริ่มทำเมื่อไหร่จะนำภาพความคืบหน้ามาให้ชมกันแน่นอนครับ แล้วพบกันใหม่ครับ ;)
However, I still have a few projects that are ready to paint waiting on my desk, some of them I've planned to do since last year. Hopefully, I'll find some free time to finish at least a couple of them before the end of this year. I'll post any updates on my work as soon as possible, see you again soon. ;)
สวัสดีครับ ช่วงที่ผ่านมาต้องขอโทษด้วยจริงๆครับที่ไม่ได้ลงความคืบหน้าใดๆของงานตัวเองที่ตั้งใจจะทำ เนื่องจากงานอาชีพที่ทำอยู่นั้นยุ่งจริงๆจนแทบไม่มีเวลาว่างให้กับงานส่วนตัว ผมยังไม่มีโอกาสได้เพนท์อะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลยตั้งแต่กลับจากงานที่ชิคาโกเมื่อเดือนกรกฎาคมครับ
วันนี้เลยอยากนำภาพงานที่เตรียมจะทำไว้มาให้ชมไปพลางๆก่อนครับ จะเห็นว่างานที่เตรียมจะทำนั้นค่อนข้างหลากหลาย ทั้งแนวทหาร ประวัติศาสตร์ ไซไฟ แฟนตาซี ผมเอาหมดครับ ฮ่าๆๆ ที่เห็นมีหลายๆชิ้นนี่บางชิ้นวางแผนเอาไว้ว่าจะทำตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่เปลี่ยนใจไปทำงานชิ้นอื่นก่อนก็เลยยังคงรออยู่ในตู้แบบนี้
ส่วนตัวเวลามีเวลาว่างเล็กๆน้อยๆก็จะเอาโมเดลที่อยากจะทำ(ในตอนนั้น) มาประกอบอุดขัดให้เรียบร้อย แล้วพ่นสีรองพื้นรอไว้สำหรับพร้อมนำไปทำสี แต่ด้วยที่ผ่านมาไม่มีเวลาว่างยาวๆสำหรับนั่งเพนท์สี ก็เลยได้แต่ทยอยประกอบอุดขัดเตรียมไว้จนเยอะอย่างที่เห็นครับ จริงๆยังมีตัวอื่นๆอีกที่ทยอยทำเตรียมไว้ก่อนนำไปทำสี ถ้ามีโอกาสคงจะนำภาพมาลงอีกทีครับ
ในปีนี้ตั้งใจว่าจะทำให้เสร็จอย่างน้อยสักสองชิ้นจากที่เตรียมไว้พร้อมสำหรับทำสี ถ้ามีโอกาสได้เริ่มทำเมื่อไหร่จะนำภาพความคืบหน้ามาให้ชมกันแน่นอนครับ แล้วพบกันใหม่ครับ ;)
Friday, September 29, 2017
เร็วๆนี้กับการเขียนรีวิวหนังสือและโมเดลครับ
ผมตั้งใจมานานแล้วว่าอยากจะเขียนรีวิวหนังสือโมเดลและฟิกเกอร์ต่างๆทั้งแนวฮิสทอริคัลและแฟนตาซี เพราะช่วงปีที่ผ่านมามีเวลาทำโมเดลน้อยลงมากจริงๆ จึงอยากทำอะไรที่ไม่ต้องใช้เวลามากเหมือนอย่างการทำโมเดล เพราะอย่างน้อยๆก็จะได้มีความเคลื่อนไหวในบล็อกของตัวเองบ้าง ที่ปีนี้แทบไม่ได้อัพเดทอะไรเลย และการเขียนรีวิวก็อาจจะเป็นประโยชน์ช่วยในการตัดสินใจสำหรับคนที่อยากจะซื้อหนังสือหรือฟิกเกอร์ รวมถึงอาจจะช่วยทำให้คนที่สนใจหนังสือหรือเริ่มสนใจในฟิกเกอร์ประเภทนี้ ที่อาจจะยังมีคนสนใจไม่มากนักในไทย (โดยเฉพาะแนวแฟนตาซี) ได้เห็นรายละเอียดหรือข้อมูลต่างๆของสิ่งเหล่านี้มากขึ้นครับ
แน่นอนว่าผมก็ยังคงทำงานโมเดลต่อไปครับ แต่คงจะไม่ได้มาอัพเดทได้บ่อยๆเหมือนเมื่อก่อน ตอนนี้ยังมีงานฟิกเกอร์ที่รอจะทำอีกหลายชิ้นเลย และหวังว่าปีหน้าคงจะได้เริ่มกลับมาทำงานโมเดลประเภทอื่นๆนอกเหนือจากฟิกเกอร์บ้าง เช่น รถถังหรือหุ่นยนต์ หลังจากที่ไม่ได้แตะงานพวกนี้มาหลายปีมากๆ ไว้ได้ลงมือทำเมื่อไหร่คงจะนำมาลงให้ชมกันแน่นอนครับ
เร็วๆนี้คงจะลงบทความรีวิวหนังสือก่อนเป็นอันดับแรก หลังจากนั้นจะพยายามหาเวลามารีวิวหนังสือเล่มอื่นๆและฟิกเกอร์ต่างๆสลับกันไปครับ
ขอบคุณทุกๆท่านที่คอยติดตามกันมาตลอดทั้งทางบล็อกและทางเพจครับ ที่ผ่านมาต้องขออภัยด้วยจริงๆที่แทบจะไม่ได้อัพเดทงานอะไรเลย หวังว่าต่อไปคงจะมีเวลามาทำผลงานหรือเขียนบทความต่างๆได้มากขึ้น แล้วพบกันใหม่ครับ :D
แน่นอนว่าผมก็ยังคงทำงานโมเดลต่อไปครับ แต่คงจะไม่ได้มาอัพเดทได้บ่อยๆเหมือนเมื่อก่อน ตอนนี้ยังมีงานฟิกเกอร์ที่รอจะทำอีกหลายชิ้นเลย และหวังว่าปีหน้าคงจะได้เริ่มกลับมาทำงานโมเดลประเภทอื่นๆนอกเหนือจากฟิกเกอร์บ้าง เช่น รถถังหรือหุ่นยนต์ หลังจากที่ไม่ได้แตะงานพวกนี้มาหลายปีมากๆ ไว้ได้ลงมือทำเมื่อไหร่คงจะนำมาลงให้ชมกันแน่นอนครับ
เร็วๆนี้คงจะลงบทความรีวิวหนังสือก่อนเป็นอันดับแรก หลังจากนั้นจะพยายามหาเวลามารีวิวหนังสือเล่มอื่นๆและฟิกเกอร์ต่างๆสลับกันไปครับ
ขอบคุณทุกๆท่านที่คอยติดตามกันมาตลอดทั้งทางบล็อกและทางเพจครับ ที่ผ่านมาต้องขออภัยด้วยจริงๆที่แทบจะไม่ได้อัพเดทงานอะไรเลย หวังว่าต่อไปคงจะมีเวลามาทำผลงานหรือเขียนบทความต่างๆได้มากขึ้น แล้วพบกันใหม่ครับ :D
Sunday, July 2, 2017
Fallen Angel Cypher (Finished)
This project is finally finished! I decided to post all photos of this project in one post in order to show some WIP photos from early stage again, because some areas are quite difficult to see in the final photos after all parts were glued together.
The painting was done with Vallejo, I used Citadel only for NMM Gold areas. The mini was coated with Testors Dullcoat Flat Clear in order to protect the paint from the direct touch. I also made a simple base so it can be used for gaming.
This mini will be a charity model raffle for NOVA Open Charitable Foundation (NOCF). The proceeds from it will go to benefit Doctors Without Borders/Medecins Sans Frontieres.
If you are interested to win this mini, please take a look for more info about the raffles on the link below. Tickets can be purchased from anywhere in the world, the NOCF will also ship anywhere in the world. There are also many model and army raffles that were painted by many talented artists, too.
http://novaopenfoundation.org/
http://novaopenfoundation.org/archives/product
I would like to say a big thank you to Sean Fulton and Dave Taylor for your help and giving me this opportunity. I hope all of you will enjoy with my latest piece. Please help share and spread the word.
งานชิ้นล่าสุดที่พึ่งทำเสร็จ Fallen Angel Cypher จาก Games Workshop ครับ ผมรวมภาพทั้งหมดของงานชิ้นนี้ไว้ในอัลบั้มเดียว เพื่อที่จะได้เห็นภาพขั้นตอนระหว่างทำและรายละเอียดในจุดต่างๆ เนื่องจากเมื่อติดชิ้นส่วนทั้งหมดเข้าด้วยกันแล้ว หลายๆส่วนจะถูกบังหรือมองได้ไม่ชัดเจน
สำหรับสีที่ใช้ในการเพนท์ทั้งหมดเป็นสี Vallejo Model Color ยกเว้นแค่ส่วนของสีทอง NMM Gold เท่านั้นที่ใช้สี Citadel ครับ และทำการพ่นเคลือบทั้งตัวด้วยสี Testors Dullcoat Flat Clear เพื่อป้องกันสีถลอกหรือหลุดลอกจากการสัมผัสที่ตัวมินิ ส่วนของฐานวางทำออกมาแบบเรียบง่ายเพื่อให้สามารถนำไปใช้ในการเล่นเกมได้ครับ
งานชิ้นนี้ผมทำขึ้นและมอบให้กับทางมูลนิธิ NOVA Open Charitable Foundation (NOCF) เพื่อเป็นของรางวัลสำหรับการจับสลากการกุศล โดยรายได้ทั้งหมดที่ได้จากการขายสลากของผลงานชิ้นนี้จะมอบให้กับองค์การ Doctors Without Borders/Medecins Sans Frontieres ครับ
หากท่านสนใจที่จะได้เป็นเจ้าของผลงานชิ้นนี้ สามารถเข้าไปดูรายละเอียดของการซื้อสลากการกุศลได้ตามลิ้งด้านล่างครับ โดยสลากนั้นสามารถซื้อได้จากทุกที่ทั่วโลก และถ้าถูกรางวัลทาง NOCF จะจัดส่งรางวัลให้ได้ทั่วโลกเช่นกันครับ ส่วนการจับสลากนั้นจะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 3 กันยายน 2017 ในงาน NOVA Open convention ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา และจะประกาศรายชื่อผู้โชคดีลงบนเว็บไซต์ของ NOCF ภายใน 7 วันหลังจากที่ทราบผลการจับสลากครับ
นอกจากผลงานของผมชิ้นนี้แล้ว ในปีนี้ทาง NOCF ยังมีผลงานการเพนท์จากศิลปินอีกหลายๆท่านเพื่อเป็นของรางวัลสำหรับการจับสลาก ทั้งมินิแบบตัวเดี่ยวหรือแม้กระทั่งกองทัพที่ทำสีพร้อมสำหรับนำไปใช้เล่นเกมได้เลย หากสนใจสามารถเข้าไปดูรายการของสลากทั้งหมดที่มีในปีนี้ได้ตามลิ้งด้านล่างเช่นกันครับ
และถ้ามีคำถามหรือข้อสงสัยใดๆในการสั่งซื้อสลากการกุศลนี้ สามารถสอบถามมาได้ทางหน้าเพจหรือทางกล่องข้อความได้ตลอดเวลาครับ
http://novaopenfoundation.org/
http://novaopenfoundation.org/archives/product
The painting was done with Vallejo, I used Citadel only for NMM Gold areas. The mini was coated with Testors Dullcoat Flat Clear in order to protect the paint from the direct touch. I also made a simple base so it can be used for gaming.
This mini will be a charity model raffle for NOVA Open Charitable Foundation (NOCF). The proceeds from it will go to benefit Doctors Without Borders/Medecins Sans Frontieres.
If you are interested to win this mini, please take a look for more info about the raffles on the link below. Tickets can be purchased from anywhere in the world, the NOCF will also ship anywhere in the world. There are also many model and army raffles that were painted by many talented artists, too.
http://novaopenfoundation.org/
http://novaopenfoundation.org/archives/product
I would like to say a big thank you to Sean Fulton and Dave Taylor for your help and giving me this opportunity. I hope all of you will enjoy with my latest piece. Please help share and spread the word.
งานชิ้นล่าสุดที่พึ่งทำเสร็จ Fallen Angel Cypher จาก Games Workshop ครับ ผมรวมภาพทั้งหมดของงานชิ้นนี้ไว้ในอัลบั้มเดียว เพื่อที่จะได้เห็นภาพขั้นตอนระหว่างทำและรายละเอียดในจุดต่างๆ เนื่องจากเมื่อติดชิ้นส่วนทั้งหมดเข้าด้วยกันแล้ว หลายๆส่วนจะถูกบังหรือมองได้ไม่ชัดเจน
สำหรับสีที่ใช้ในการเพนท์ทั้งหมดเป็นสี Vallejo Model Color ยกเว้นแค่ส่วนของสีทอง NMM Gold เท่านั้นที่ใช้สี Citadel ครับ และทำการพ่นเคลือบทั้งตัวด้วยสี Testors Dullcoat Flat Clear เพื่อป้องกันสีถลอกหรือหลุดลอกจากการสัมผัสที่ตัวมินิ ส่วนของฐานวางทำออกมาแบบเรียบง่ายเพื่อให้สามารถนำไปใช้ในการเล่นเกมได้ครับ
งานชิ้นนี้ผมทำขึ้นและมอบให้กับทางมูลนิธิ NOVA Open Charitable Foundation (NOCF) เพื่อเป็นของรางวัลสำหรับการจับสลากการกุศล โดยรายได้ทั้งหมดที่ได้จากการขายสลากของผลงานชิ้นนี้จะมอบให้กับองค์การ Doctors Without Borders/Medecins Sans Frontieres ครับ
หากท่านสนใจที่จะได้เป็นเจ้าของผลงานชิ้นนี้ สามารถเข้าไปดูรายละเอียดของการซื้อสลากการกุศลได้ตามลิ้งด้านล่างครับ โดยสลากนั้นสามารถซื้อได้จากทุกที่ทั่วโลก และถ้าถูกรางวัลทาง NOCF จะจัดส่งรางวัลให้ได้ทั่วโลกเช่นกันครับ ส่วนการจับสลากนั้นจะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 3 กันยายน 2017 ในงาน NOVA Open convention ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา และจะประกาศรายชื่อผู้โชคดีลงบนเว็บไซต์ของ NOCF ภายใน 7 วันหลังจากที่ทราบผลการจับสลากครับ
นอกจากผลงานของผมชิ้นนี้แล้ว ในปีนี้ทาง NOCF ยังมีผลงานการเพนท์จากศิลปินอีกหลายๆท่านเพื่อเป็นของรางวัลสำหรับการจับสลาก ทั้งมินิแบบตัวเดี่ยวหรือแม้กระทั่งกองทัพที่ทำสีพร้อมสำหรับนำไปใช้เล่นเกมได้เลย หากสนใจสามารถเข้าไปดูรายการของสลากทั้งหมดที่มีในปีนี้ได้ตามลิ้งด้านล่างเช่นกันครับ
และถ้ามีคำถามหรือข้อสงสัยใดๆในการสั่งซื้อสลากการกุศลนี้ สามารถสอบถามมาได้ทางหน้าเพจหรือทางกล่องข้อความได้ตลอดเวลาครับ
http://novaopenfoundation.org/
http://novaopenfoundation.org/archives/product
Saturday, June 24, 2017
World Model Expo Chicago 2017
สวัสดีครับ วันนี้อยากจะแนะนำให้ทุกๆท่านได้รู้จักกับงานประกวดโมเดลในระดับนานาชาติที่กำลังจะจัดขึ้นเร็วๆนี้ ในวันที่ 7-9 กรกฎาคม 2017 ที่เมืองชิคาโก ประเทศสหรัฐอเมริกาครับ
World Model Expo เป็นงานประกวดโมเดลแนวฟิกเกอร์ที่ใหญ่ที่สุดงานหนึ่ง ณ ขณะนี้ และเป็นอีกหนึ่งงานประกวดเก่าแก่ที่จัดต่อเนื่องมาอย่างยาวนาน โดยรูปแบบของการจัดงานจะคล้ายๆกับโอลิมปิกคืองานจะจัดขึ้นทุกๆ 3 ปี และหมุนเวียนเปลี่ยนประเทศที่จัดงานกันไปเรื่อยๆ โดยสมาคมหรือกลุ่มโมเดลในประเทศที่ได้รับเลือกจะรับหน้าที่ในการจัดงานและดูแลทุกอย่าง ทั้งสถานที่ กฎกติกาต่างๆในการประกวดที่อาจจะแตกต่างกันตามแต่ละประเทศกำหนด รวมถึงการทำเว็บไซต์เผยแพร่ข้อมูล และการอำนวยความสะดวกต่างๆแก่ผู้เข้าร่วมประกวด
สำหรับในครั้งนี้จะเป็นการกลับมาจัดงานในประเทศสหรัฐอเมริกาอีกครั้งในรอบ 12 ปี หลังจากที่เคยมาจัดที่เมืองบอสตันเมื่อปี 2005 และกลับไปจัดที่ยุโรปอีกสามครั้งคือ Girona, Spain (2008) Montreux, Switzerland (2011) และ Stresa, Italy (2014) ซึ่งครั้งล่าสุดที่จัดประกวดที่อิตาลี่นั้นได้รับความสนใจและประสบความสำเร็จในการจัดงานเป็นอย่างมาก มีผลงานเข้าร่วมมากกว่า 4,000 ชิ้น และถือเป็นอีกหนึ่งงานประกวดที่มีผลงานฟิกเกอร์ที่ดีที่สุดทั้งในประเภทฮิสทอริคัลและแฟนตาซีมาร่วมประกวดในปีนั้น
(หากสนใจลองเข้าไปชมรายงานจากการประกวด World Model Expo Stresa 2014 โดย Massive Vodoo และชมภาพผลงานที่เข้าร่วมได้ในลิ้งด้านล่างครับ)
Massive Voodoo Event Report: World Model Expo - Stresa 2014
Pekka Nieminen’s FB gallery (free for all)
ส่วนการประกวดที่กำลังจะจัดขึ้นที่ชิคาโกนี้ จะใช้การตัดสินแบบ Open System คือใช้เกณฑ์การให้คะแนนในการตัดสินผลรางวัล เหรียญทอง เหรียญเงิน เหรียญทองแดง และรางวัลชมเชย
โดยไม่ได้จำกัดจำนวนเหรียญที่จะมอบในแต่ละประเภท ขึ้นอยู่กับคุณภาพของผลงานแต่ละชิ้นว่าจะเหมาะสมกับเหรียญรางวัลไหน การประกวดที่ใช้ระบบนี้จึงเหมือนกับให้ผู้ร่วมประกวดแข่งขันกับตัวเองว่าจะสามารถทำผลงานได้ถึงระดับเหรียญแบบไหน
ในการประกวดครั้งนี้จะแบ่ง รุ่นของผู้เข้าร่วมประกวดออกเป็น 3 รุ่น คือ
Advanced Level - แบ่งประเภทของการประกวดเป็น 6 ประเภท
Open Historical Division
Open Fantasy Division
Open Ordnance Division
Painters Historical Division
Painters Fantasy Division
Painters Ordnance Division
Basic Level - - แบ่งประเภทของการประกวดเป็น 3ประเภท
Basic Historical
Basic Fantasy
Basic Ordnance
Junior Level - สำหรับผู้เข้าประกวดอายุไม่เกิน 12 ปี และไม่ได้จำกัดประเภทของโมเดลที่ส่งเข้าประกวด
ส่วนรางวัลสูงสุดของการประกวด Best of Show จะแบ่งออกเป็น 3 รางวัลสำหรับโมเดลที่ดีที่สุดในประเภท Historical, Fantasy และ Ordnance
นอกจากการประกวดโมเดลที่เป็นกิจกรรมหลักของงานครั้งนี้แล้ว ยังมีงานสัมมนาจากโมเดลเลอร์ชื่อดังระดับโลกหลายๆท่าน ที่จะมาสอนเกี่ยวกับเทคนิคการทำสี หรือการปั้น ให้ผู้ที่สนใจได้ลงทะเบียนเข้าร่วมในแต่ละหัวข้องานสัมมนา ที่มีตลอดเวลาสามวันของการจัดงาน และยังมีส่วนของร้านค้าที่มาเข้าร่วมออกบูธขายสินค้าอีกมากมายร่วม 50 ร้านครับ
งานประกวดนี้อาจจะยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จักในหมู่คนไทย เพราะจะเป็นงานประกวดที่เน้นไปทางโมเดลประเภทฟิกเกอร์แนวฮิสทอริคัลและแฟนตาซีเป็นหลัก (มีงานประเภทยุทธยานยนต์ร่วมส่งด้วย แต่จะไม่โดดเด่นเท่างานประเภทอื่นๆ) ซึ่งบ้านเรายังมีคนสนใจไม่มากนัก จึงอยากจะแนะนำให้ได้รู้จักกันครับ เพราะในต่างประเทศนั้นนี่ถือเป็นงานประกวดใหญ่ในระดับนานาชาติอีกงานหนึ่ง ที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะจากความนิยมในฟิกเกอร์ประเภทแฟนตาซีที่สูงมากขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา รวมถึงการเสื่อมความนิยมของงานยูโรจากปัญหาหลายๆอย่างจนทำให้ต้องปิดตัวลงไป งานนี้จึงกลายเป็นงานที่ผู้คนในแวดวงฟิกเกอร์ทั่วโลกให้ความสนใจกันมากที่สุดอีกงานหนึ่งในขณะนี้ครับ
หากสนใจข้อมูลเพิ่มเติมและรายละเอียดต่างๆของงานประกวดนี้ สามารถเข้าไปดูได้ที่เว็บไซต์ของงานประกวดและกลุ่มในเฟซบุ๊คตามลิ้งด้านล่างครับ
http://www.we2017chicago.com/
https://www.facebook.com/groups/WorldExpo2017/
ตัวผมเองตัดสินใจว่าจะไปร่วมงานนี้ตั้งแต่ที่ทราบข่าวเมื่อสามปีที่แล้ว ซึ่งถือว่าโชคดีมากๆที่ปีนี้จะกลับมาจัดในฝั่งอเมริกาอีกครั้ง เพราะถ้ายังจัดอยู่ทางฝั่งยุโรปคงจะไม่มีโอกาสได้ไปร่วมครับ ดังนั้นช่วงสามปีที่ผ่านมาจึงได้เตรียมทำผลงานเอาไว้สำหรับนำไปประกวดในครั้งนี้มาโดยตลอดครับ
ส่วนตัวคิดว่างานในครั้งนี้ผลงานที่เข้าร่วมคงจะไม่มากเท่าครั้งที่แล้วเพราะทางฝั่งยุโรปคงจะเดินทางมาลำบากเนื่องจากต้องใช้งบประมาณเยอะกว่า แต่ก็หวังว่าจะได้เห็นผลงานดีๆจากโมเดลเลอร์ระดับโลกหลายๆท่านทั้งจากทางฝั่งอเมริกาและจากทางยุโรป และคิดว่าคงจะเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่ดีมากๆสำหรับตัวเองครับ ตั้งใจเอาไว้ว่าหลังจากจบงานแล้วคงจะได้เขียนบทความเกี่ยวกับงานในครั้งนี้ให้ได้อ่านกัน และจะนำภาพผลงานต่างๆและบรรยากาศมาฝากกันครับ
Saturday, June 3, 2017
Fallen Angel Cypher (part 2)
A bit more progress on this project. I decided to paint the armor with Black and a glimpse of Green on the highlight areas to make it look a bit different from the box art. It was done by painting on the highlight areas with grey tones then glazed on them with Military Green (Vallejo), glazed again with Black to make a smooth transition between Black and Green then added a final highligh with almost White.
It's quite difficult to see this effect in the photos but Green is cleary visible under the desk lamp.
ความคืบหน้าอีกเล็กน้อยครับ ส่วนของเกราะผมลองทำสีให้เป็นเกราะสีดำที่ตรงส่วนไฮไลท์จะมีสีเขียวเหลือบให้เห็น เพื่อให้สีดูต่างจากภาพหน้ากล่องและดูน่าสนใจมากขึ้นครับ โดยใช้วิธีการเพนท์ส่วนที่เป็นไฮไลท์บนเกราะสีดำด้วยโทนสีเทา จากนั้นทาเคลือบแบบเกลซ (glazing) บริเวณส่วนของไฮไลท์ด้วยสีเขียว Military Green (Vallejo) แล้วใช้สีดำมาทาเกลซระหว่างรอยต่อของสีเขียวและดำให้ดูกลมกลืนอีกที สุดท้ายทาสีไฮไลท์ด้วยสีเทาอ่อนเกือบขาวครับ
ในภาพอาจจะมองเห็นสีเหลือบเขียวได้ไม่ค่อยชัดนัก แต่เวลาตั้งอยู่ใต้โคมไฟส่วนของสีเขียวจะเห็นได้ชัดมากครับ
It's quite difficult to see this effect in the photos but Green is cleary visible under the desk lamp.
ความคืบหน้าอีกเล็กน้อยครับ ส่วนของเกราะผมลองทำสีให้เป็นเกราะสีดำที่ตรงส่วนไฮไลท์จะมีสีเขียวเหลือบให้เห็น เพื่อให้สีดูต่างจากภาพหน้ากล่องและดูน่าสนใจมากขึ้นครับ โดยใช้วิธีการเพนท์ส่วนที่เป็นไฮไลท์บนเกราะสีดำด้วยโทนสีเทา จากนั้นทาเคลือบแบบเกลซ (glazing) บริเวณส่วนของไฮไลท์ด้วยสีเขียว Military Green (Vallejo) แล้วใช้สีดำมาทาเกลซระหว่างรอยต่อของสีเขียวและดำให้ดูกลมกลืนอีกที สุดท้ายทาสีไฮไลท์ด้วยสีเทาอ่อนเกือบขาวครับ
ในภาพอาจจะมองเห็นสีเหลือบเขียวได้ไม่ค่อยชัดนัก แต่เวลาตั้งอยู่ใต้โคมไฟส่วนของสีเขียวจะเห็นได้ชัดมากครับ
Saturday, May 13, 2017
Fallen Angel Cypher (part 1)
It has been a while since my last update. Here is my current work in progress. I used glazing technique for blending shadow and highlight on freehand pattern. This freehand was applied from Medieval style pattern and adapted with my own style.
I'm so sorry I have not been active for several months. I will post more updates of this project soon.
งานล่าสุดที่กำลังทำอยู่ตอนนี้ครับ ผมใช้การทาแบบเกลซ (glazing) เพื่อเกลี่ยสีของแสงและเงาลงบนลวดลายที่วาดเอาไว้บนผ้าคลุมและทำให้รอยยับต่างๆของผ้าคลุมนั้นดูมีมิติมากขึ้น ส่วนลวดลายที่เห็นดัดแปลงมาจากลายผ้าในยุคกลางแล้วปรับให้เข้ากับลายในแบบของตัวเองครับ
ต้องขอโทษด้วยครับที่ช่วงหลังๆแทบไม่ได้ลงผลงานเลย เนื่องจากว่างานยุ่งมากจริงๆ หลังจากนี้จะพยายามนำความคืบหน้ามาลงให้บ่อยขึ้นครับ
I'm so sorry I have not been active for several months. I will post more updates of this project soon.
งานล่าสุดที่กำลังทำอยู่ตอนนี้ครับ ผมใช้การทาแบบเกลซ (glazing) เพื่อเกลี่ยสีของแสงและเงาลงบนลวดลายที่วาดเอาไว้บนผ้าคลุมและทำให้รอยยับต่างๆของผ้าคลุมนั้นดูมีมิติมากขึ้น ส่วนลวดลายที่เห็นดัดแปลงมาจากลายผ้าในยุคกลางแล้วปรับให้เข้ากับลายในแบบของตัวเองครับ
ต้องขอโทษด้วยครับที่ช่วงหลังๆแทบไม่ได้ลงผลงานเลย เนื่องจากว่างานยุ่งมากจริงๆ หลังจากนี้จะพยายามนำความคืบหน้ามาลงให้บ่อยขึ้นครับ
Tuesday, April 18, 2017
Wood Plinth for 1/16 bust
A few days ago, I received these custom made plinths from CrazyWenky (Germany). I ordered custom size 30x30x70mm, the same size of the plinth that I got from them a while back and used on 1/16 bust from Fer Miniatures. In my opinion, this size is fit perfectly for 1/16 bust. I have planned to do a few more busts from this scale, therefore I will have enough plinths for them.
The short plinth in the center is still available on their website (30 x 30 x 55mm), take a look on the link below if you are interested.
http://crazywenky.de/
https://www.facebook.com/CrazyWenky.de/
ผมพึ่งได้รับฐานไม้ที่สั่งทำจากเว็บไซต์ CrazyWenky จากประเทศเยอรมันครับ เป็นฐานไม้ในขนาด 30x30x70mm ซึ่งเป็นขนาดเดียวกับฐานของยี่ห้อนี้ที่ผมได้มาเมื่อนานมาแล้ว และนำไปใช้กับงานบัสของ Fer Miniatures ส่วนตัวคิดว่าฐานไม้ในขนาดนี้นั้นดูเหมาะสมมากกับงานบัสในขนาด 1/16 ครับ ไม่ใหญ่หรือเล็กจนเกินไป เลยสั่งทำเผื่อเอาไว้ในอนาคตเพราะมีโครงการจะทำบัสในขนาดนี้อีกหลายตัวครับ
ส่วนฐานไม้ที่อยู่ตรงกลางจะมีขนาดเล็กกว่าหน่อย (30 x 30 x 55mm) และยังมีขายอยู่ในเว็บ เมื่อนำมาวางกับบัส 1/16 ของ Alpine แล้วส่วนตัวคิดว่ามันดูสมส่วนกำลังดีครับ หากท่านสนใจฐานไม้แบบนี้ลองเข้าไปดูได้ตามลิ้งที่ลงไว้ด้านบนครับ
The short plinth in the center is still available on their website (30 x 30 x 55mm), take a look on the link below if you are interested.
http://crazywenky.de/
https://www.facebook.com/CrazyWenky.de/
ผมพึ่งได้รับฐานไม้ที่สั่งทำจากเว็บไซต์ CrazyWenky จากประเทศเยอรมันครับ เป็นฐานไม้ในขนาด 30x30x70mm ซึ่งเป็นขนาดเดียวกับฐานของยี่ห้อนี้ที่ผมได้มาเมื่อนานมาแล้ว และนำไปใช้กับงานบัสของ Fer Miniatures ส่วนตัวคิดว่าฐานไม้ในขนาดนี้นั้นดูเหมาะสมมากกับงานบัสในขนาด 1/16 ครับ ไม่ใหญ่หรือเล็กจนเกินไป เลยสั่งทำเผื่อเอาไว้ในอนาคตเพราะมีโครงการจะทำบัสในขนาดนี้อีกหลายตัวครับ
ส่วนฐานไม้ที่อยู่ตรงกลางจะมีขนาดเล็กกว่าหน่อย (30 x 30 x 55mm) และยังมีขายอยู่ในเว็บ เมื่อนำมาวางกับบัส 1/16 ของ Alpine แล้วส่วนตัวคิดว่ามันดูสมส่วนกำลังดีครับ หากท่านสนใจฐานไม้แบบนี้ลองเข้าไปดูได้ตามลิ้งที่ลงไว้ด้านบนครับ
Saturday, April 1, 2017
Waffen-SS Infantry
12th SS Panzer Division “Hitlerjugend”
Normandy 1944
Alpine Miniatures 1/35 scale resin figure
Early of this year I entered this figure in the Alpine Miniatures Painting Contest, turned out it won Judge's favorite Award. I am so honoured and humbled, getting this award from them means a lot to me. I once entered some of my works in their first contest back in 2009 on network54.com, at that time I did not win anything but got some comments to improve my work from judges Taesung Harmms, Calvin Tan and Jaume Ortiz Forns. It was a great experience that inspired me to improve and learn more about figure painting, but I never thought that several years later I could come this far.
Thank you so much M.S Models from Japan and Asami Watanabe for hosted this contest, also thank you so much to all judges for your wonderful works that have been inspiring me for many years. This award will definitely motivate myself to go further. I still have a long way to go and there are so many things I have to learn and improve, at least now I know I am on the right path to improvement. I hope you enjoy with the final photos, this project is finally complete!
ช่วงต้นปีที่ผ่านมามีโอกาสได้นำงานชิ้นนี้ส่งเข้าร่วมประกวดกับงาน Alpine Miniatures Painting Contest ที่จัดขึ้นในกลุ่มบนเฟซบุ๊คครับ และผลของการประกวดปรากฏว่างานชิ้นนี้ได้รับรางวัล Judge's favorite Award ซึ่งเกินความคาดหมายของตัวผมเองและรู้สึกเป็นเกียรติมากๆที่ได้รับรางวัลนี้ เพราะมันมีความหมายกับตัวผมเองมากๆ เนื่องจากเมื่อประมาณ 8 ปีที่แล้ว (2009) ผมเคยส่งผลงานฟิกเกอร์เข้าร่วมกับการจัดประกวดครั้งแรกของทางอัลไพน์บนเว็บไซต์ network54.com ในตอนนั้นงานที่ส่งไปสามชิ้นไม่ได้รับรางวัลใดๆ แต่ได้อ่านความเห็นของกรรมการทั้งสามท่านคือ Taesung Harmms, Calvin Tan และ Jaume Ortiz Forns ที่มีต่อผลงานของเรา เพื่อนำไปปรับใช้ในการพัฒนาผลงานตัวเอง ซึ่งประสบการณ์ในครั้งนั้นก็เป็นแรงบันดาลใจให้ผมเริ่มเรียนรู้และพัฒนาการเพนท์ผลงานของตัวเองอย่างจริงจัง และไม่เคยคิดเหมือนกันว่าความพยายามในช่วงหลายปีที่ผ่านมาจะพาตัวเองมาได้ไกลขนาดนี้ครับ
ผมต้องขอขอบคุณทาง M.S Models จากญี่ปุ่นและ Asami Watanabe ที่เป็นผู้จัดงานประกวดในครั้งนี้เป็นอย่างสูง และขอขอบคุณทางคณะกรรมการทุกท่านสำหรับผลงานที่น่าทึ่งและสร้างแรงบันดาลใจให้กับผมมาตลอดในช่วงหลายปีที่ผ่านมาครับ การได้รับรางวัลในครั้งนี้จะเป็นแรงกระตุ้นอย่างดีให้ผมพยายามพัฒนาผลงานของตัวเองให้ดียิ่งขึ้นต่อไป เพราะยังมีอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่ยังต้องเรียนรู้และปรับปรุง แม้ว่าหนทางในการพัฒนาตัวเองนั้นยังอีกยาวไกลและคงใช้เวลาอีกนาน แต่อย่างน้อยรางวัลนี้ก็เป็นสิ่งที่ช่วยยืนยันว่าเราได้เลือกเดินมาตามทางที่ถูกต้องในการพัฒนาผลงานของตัวเองแล้วครับ
ช่วงที่ผ่านมาผมไม่ค่อยได้ลงความคืบหน้าของงานที่ทำอยู่เนื่องจากค่อนข้างยุ่งกับงานประจำ หวังว่าในอนาคตคงจะมีเวลามาทำงานตัวเองมากขึ้น และอัพเดทบล็อกและเพจได้บ่อยกว่านี้นะครับ แล้วพบกันใหม่ครับ
Normandy 1944
Alpine Miniatures 1/35 scale resin figure
Early of this year I entered this figure in the Alpine Miniatures Painting Contest, turned out it won Judge's favorite Award. I am so honoured and humbled, getting this award from them means a lot to me. I once entered some of my works in their first contest back in 2009 on network54.com, at that time I did not win anything but got some comments to improve my work from judges Taesung Harmms, Calvin Tan and Jaume Ortiz Forns. It was a great experience that inspired me to improve and learn more about figure painting, but I never thought that several years later I could come this far.
Thank you so much M.S Models from Japan and Asami Watanabe for hosted this contest, also thank you so much to all judges for your wonderful works that have been inspiring me for many years. This award will definitely motivate myself to go further. I still have a long way to go and there are so many things I have to learn and improve, at least now I know I am on the right path to improvement. I hope you enjoy with the final photos, this project is finally complete!
ช่วงต้นปีที่ผ่านมามีโอกาสได้นำงานชิ้นนี้ส่งเข้าร่วมประกวดกับงาน Alpine Miniatures Painting Contest ที่จัดขึ้นในกลุ่มบนเฟซบุ๊คครับ และผลของการประกวดปรากฏว่างานชิ้นนี้ได้รับรางวัล Judge's favorite Award ซึ่งเกินความคาดหมายของตัวผมเองและรู้สึกเป็นเกียรติมากๆที่ได้รับรางวัลนี้ เพราะมันมีความหมายกับตัวผมเองมากๆ เนื่องจากเมื่อประมาณ 8 ปีที่แล้ว (2009) ผมเคยส่งผลงานฟิกเกอร์เข้าร่วมกับการจัดประกวดครั้งแรกของทางอัลไพน์บนเว็บไซต์ network54.com ในตอนนั้นงานที่ส่งไปสามชิ้นไม่ได้รับรางวัลใดๆ แต่ได้อ่านความเห็นของกรรมการทั้งสามท่านคือ Taesung Harmms, Calvin Tan และ Jaume Ortiz Forns ที่มีต่อผลงานของเรา เพื่อนำไปปรับใช้ในการพัฒนาผลงานตัวเอง ซึ่งประสบการณ์ในครั้งนั้นก็เป็นแรงบันดาลใจให้ผมเริ่มเรียนรู้และพัฒนาการเพนท์ผลงานของตัวเองอย่างจริงจัง และไม่เคยคิดเหมือนกันว่าความพยายามในช่วงหลายปีที่ผ่านมาจะพาตัวเองมาได้ไกลขนาดนี้ครับ
ผมต้องขอขอบคุณทาง M.S Models จากญี่ปุ่นและ Asami Watanabe ที่เป็นผู้จัดงานประกวดในครั้งนี้เป็นอย่างสูง และขอขอบคุณทางคณะกรรมการทุกท่านสำหรับผลงานที่น่าทึ่งและสร้างแรงบันดาลใจให้กับผมมาตลอดในช่วงหลายปีที่ผ่านมาครับ การได้รับรางวัลในครั้งนี้จะเป็นแรงกระตุ้นอย่างดีให้ผมพยายามพัฒนาผลงานของตัวเองให้ดียิ่งขึ้นต่อไป เพราะยังมีอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่ยังต้องเรียนรู้และปรับปรุง แม้ว่าหนทางในการพัฒนาตัวเองนั้นยังอีกยาวไกลและคงใช้เวลาอีกนาน แต่อย่างน้อยรางวัลนี้ก็เป็นสิ่งที่ช่วยยืนยันว่าเราได้เลือกเดินมาตามทางที่ถูกต้องในการพัฒนาผลงานของตัวเองแล้วครับ
ช่วงที่ผ่านมาผมไม่ค่อยได้ลงความคืบหน้าของงานที่ทำอยู่เนื่องจากค่อนข้างยุ่งกับงานประจำ หวังว่าในอนาคตคงจะมีเวลามาทำงานตัวเองมากขึ้น และอัพเดทบล็อกและเพจได้บ่อยกว่านี้นะครับ แล้วพบกันใหม่ครับ