Translated by Krittadhi Boonvichitr (ZAlpha)
I began making all of the three
vignettes around the same time in 2011 to accompany my article for Thai
website. The article deals with how I create my vignettes
from finding inspirations and turning those inspirations to ideas or stories I
want to convey. It also mentioned how to arrange each element, from rough
layouts to adding final touches. The vignettes I used for this were inspired by
3 different period; the present, Vietnam War, and World War II. This is why all
of the three were finished only to certain degrees, as I cannot find time to
finish them and they are all sitting still on my display cabinet.
งานวิคเน็ททั้ง 3 ชิ้นนี้ ผมเริ่มทำพร้อมๆกันในช่วงปี 2011 เพื่อเขียนเป็นบทความลงในเว็ปไซท์ของไทย เกี่ยวกับวิธีในการเริ่มต้นการทำวิคเน็ทของผม ตั้งแต่การหาแรงบันดาลใจในการสร้างงาน และแปลงแรงบันดาลใจนั้นให้กลายเป็นแนวความคิดหรือเรื่องราวที่ต้องการจะสื่อภายในผลงาน รวมไปถึงวิธีการในการจัดวางองค์ประกอบภายในฉากแบบเบื้องต้น เพื่อให้เห็นถึงลักษณะของฉากโดยรวมแบบคร่าวๆ ก่อนที่จะเพิ่มเติมรายละเอียดต่างๆจนฉากนั้นสมบูรณ์ โดยใช้ตัวอย่างเป็นวิคเน็ทจาก 3 ยุค คือ ปัจจุบัน เวียดนาม และ WWII งานทั้ง 3 ชิ้น จึงทำเสร็จแค่เพียงในขั้นเริ่มต้นเท่านั้น เพราะใช้เป็นเพียงตัวอย่าง ในการอธิบายวิธีเริ่มต้นในการทำวิคเน็ท หลังจากนั้นผมจึงไม่ได้นำกลับมาทำต่อและยังคงรอคอยอยู่ในตู้เช่นเดียวกัน
งานวิคเน็ททั้ง 3 ชิ้นนี้ ผมเริ่มทำพร้อมๆกันในช่วงปี 2011 เพื่อเขียนเป็นบทความลงในเว็ปไซท์ของไทย เกี่ยวกับวิธีในการเริ่มต้นการทำวิคเน็ทของผม ตั้งแต่การหาแรงบันดาลใจในการสร้างงาน และแปลงแรงบันดาลใจนั้นให้กลายเป็นแนวความคิดหรือเรื่องราวที่ต้องการจะสื่อภายในผลงาน รวมไปถึงวิธีการในการจัดวางองค์ประกอบภายในฉากแบบเบื้องต้น เพื่อให้เห็นถึงลักษณะของฉากโดยรวมแบบคร่าวๆ ก่อนที่จะเพิ่มเติมรายละเอียดต่างๆจนฉากนั้นสมบูรณ์ โดยใช้ตัวอย่างเป็นวิคเน็ทจาก 3 ยุค คือ ปัจจุบัน เวียดนาม และ WWII งานทั้ง 3 ชิ้น จึงทำเสร็จแค่เพียงในขั้นเริ่มต้นเท่านั้น เพราะใช้เป็นเพียงตัวอย่าง ในการอธิบายวิธีเริ่มต้นในการทำวิคเน็ท หลังจากนั้นผมจึงไม่ได้นำกลับมาทำต่อและยังคงรอคอยอยู่ในตู้เช่นเดียวกัน
NYPD ESU
The first of the three pieces is
inspired by modern settings. As for the idea behind this work, I want to
combine two things that I love most together – these are modeling and graffiti
art. Thus, the story is about an NYPD ESU who is at the scene in New York. He
is shouting at the people playing basketball nearby to get out of there because
it is dangerous. As you can see, the scene has been finished. It depicts some
basketball cage in NY which has graffiti sprayed all over the wall and other
places. I designed all of the graffiti seen in this vignette myself and painted
each with acrylic paints. The wall was made from plaster while the cage was
made from plastic mesh and rods. The chair and the garbage bin were built from
plastic sheets with garbage bags made of stuffed plastic bags.
ชิ้นแรกนี้ทำออกมาเป็นงานในยุคปัจจุบัน สำหรับแนวคิดในการทำงานชิ้นนี้นั้น
มาจากที่ผมต้องการจะนำสองสิ่งที่ผมรักคือการทำโมเดลและการทำ Graffiti ให้มาผสมเข้าด้วยกัน
จึงทำออกมาเป็นเรื่องราวของหน่วย NYPD ESU ที่กำลังเข้าปฎิบัติการในพื้นที่เกิดเหตุในเมืองนิวยอร์ค
และตะโกนบอกให้เด็กที่เล่นบาสเก็ตบอลในบริเวณนั้น
ถอยออกไปจากพื้นที่เพราะมันอันตราย ซึ่งตัวฉากนั้นผมทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว
และทำออกมาเป็นฉากของสนามบาสภายในเมืองนิวยอร์กที่มีงาน graffiti พ่นอยู่บนผนัง
และตามที่ต่างๆ ซึ่งลวดลายของ Graffiti ทั้งหมดภายในฉากนั้น เป็นการออกแบบของผมเองและเขียนด้วยสีอะครีลิค
ส่วนกำแพงนั้นทำจากปูนพลาสเตอร์และทำลูกกรงเหล็กด้วยแท่งพลาสติกกับ
ตาข่ายพลาสติก ส่วนเก้าอี้และถังขยะนั้นขึ้นรูปจากพลาสติกชีท
และทำถุงขยะจากถุงพลาสติกที่ยัดเศษกระดาษและโฟมไว้ด้านใน
As you can see, the figure hasn’t
been finished because I was feeling bored and too lazy to convert the pose. I
also think, at that time, that my skills on sculpting weren’t good enough yet.
So I decided to wait while practicing with other pieces (such a wonderful
excuse, by the way). So the work stopped just here.
ส่วนของตัวฟิกเกอร์นั้น เนื่องจากรู้สึกเบื่อและขี้เกียจกับการปั้นและดัดแปลงท่าทางของฟิกเกอร์ เพราะยังคิดว่าฝีมือในการปั้นของผมเองนั้นยังไม่ดีพอ เลยรอให้มันพัฒนาขึ้นด้วยการฝึกปั้นกับงานชิ้นอื่นๆก่อน(เป็นคำแก้ตัวที่ดูดีมาก) งานชิ้นนี้จึงทำค้างเอาไว้ได้เพียงแค่นี้
ส่วนของตัวฟิกเกอร์นั้น เนื่องจากรู้สึกเบื่อและขี้เกียจกับการปั้นและดัดแปลงท่าทางของฟิกเกอร์ เพราะยังคิดว่าฝีมือในการปั้นของผมเองนั้นยังไม่ดีพอ เลยรอให้มันพัฒนาขึ้นด้วยการฝึกปั้นกับงานชิ้นอื่นๆก่อน(เป็นคำแก้ตัวที่ดูดีมาก) งานชิ้นนี้จึงทำค้างเอาไว้ได้เพียงแค่นี้
No comments:
Post a Comment