May the Christmas season fill your home with joy, your heart with love and your life with laughter.
Pages
▼
Friday, December 25, 2015
Monday, December 21, 2015
GBWC 2015 Championship Winners
Result image by Satoshi Kaneko |
For more infomation about the competition results and entries, please click on the link below.
http://bandai-hobby.net/GBWC/result.html
วันนี้มีข่าวดีๆในวงการโมเดลมาแจ้งให้ทราบกันครับ ท่านที่ทำโมเดลกันดั้มน่าจะได้ทราบกันบ้างแล้ว สำหรับผลการประกวดโมเดลกันดั้ม GUNPLA BUILDERS WORLD CUP (GBWC) 2015 ในรอบชิงแชมป์โลกที่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ผลงานของคนไทยได้รางวัลแชมป์โลกไปครอง ดังนั้นจึงอยากขอร่วมแสดงความยินดีกับแชมป์โลกคนล่าสุด คุณวิชยุตม์ เอี่ยมอ่อง ด้วยนะครับ และขอแสดงความยินดีกับน้องณัชชา หวายพิมาย ที่ได้รางวัลที่สาม จากการประกวดในประเภทจูเนียร์ด้วยเช่นกันครับ ยอดเยี่ยมมากๆทั้งสองท่านเลย
สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมของผลการประกวด และผลงานตัวแทนจากประเทศต่างๆ สามารถเข้าไปชมได้ที่ลิ้งด้านล่างครับ
http://bandai-hobby.net/GBWC/result.html
Saturday, December 19, 2015
Casualties of War (part 1)
I started this project a few years ago. At that time I wanted to do another vignette after I finished this piece [HERE], to tell a different story of the final year of World War II. This is a vignette scene of German soldiers of the 3rd SS panzer division Totenkopf in Hungary 1945. They are retreating from the city after they failed to relieve the encircled garrison of Budapest in operation Conrad III. This project I want to express the feeling of soldiers who exhausted and sorrow for their failure and for the city after they saw a civilian corpse. During the siege of Budapest, more than thirty thousand civilians were killed from military action and starvation.
For making the scene, a building and pavement were made from plaster. I used this method [HERE] to cast the building then cut and carved the details with art knife. After the building was done and glued in place, I poured plaster on the ground to simulate the appearance of pile of debris.
For making the scene, a building and pavement were made from plaster. I used this method [HERE] to cast the building then cut and carved the details with art knife. After the building was done and glued in place, I poured plaster on the ground to simulate the appearance of pile of debris.
The figures on this scene are from Dragon 6194 Panzergrenadiers Wiking Division. A civilian arm was sculpted from Magic Sculpt with a hand from Hornet. They were coated with black primer from Citadel.
ผลงานชิ้นล่าสุดที่กำลังทำอยู่ครับ เป็นงานที่ผมทำทิ้งไว้ตั้งแต่หลายปีก่อน หลังจากที่ตอนนั้นได้ทำฉากช่วงที่เยอรมันกำลังแพ้สงครามเสร็จ [HERE] เลยได้ไอเดียว่าอยากจะลองทำฉากของช่วงปลายสงครามโลกครั้งที่สองในมุมมองอื่นๆบ้าง จึงเกิดเป็นงานชิ้นนี้ขึ้นมาครับ เป็นเรื่องราวของทหารเยอรมันหน่วย 3rd SS panzer division Totenkopf ในการรบที่ประเทศฮังการีช่วงปี 1945 ที่กำลังล่าถอยออกจากเมืองบูดาเปสต์ หลังจากที่ล้มเหลวในปฏิบัติการ Conrad III ในการพยายามทำลายวงล้อมของทหารรัสเซียที่ปิดล้อมเมืองอยู่ ในงานชิ้นนี้ผมต้องการที่จะสื่อถึงอารมณ์ของทหารที่เหน็ดเหนื่อยจากการรบที่ยาวนาน ท้อแท้จากความพ่ายแพ้และหดหู่กับสภาพของชาวเมืองและเมืองที่โดนทำลาย ในช่วงที่บูดาเปสต์โดนปิดล้อมนั้น ประชาชนมากกว่าสามหมื่นคนต้องเสียชีวิตจากการสู้รบและความอดอยาก นี่เป็นแนวคิดที่ใช้สร้างผลงานชิ้นนี้ครับ
สำหรับการสร้างฉากนั้น ตัวอาคารและพื้นถนนทำมาจากปูนพลาสเตอร์ครับ ผมใช้วิธีการหล่อปูนทำอาคารแบบที่เคยลงเอาไว้ [HERE] จากนั้นนำมาแกะรายละเอียดต่างๆด้วยอาร์ตไนฟ์ เมื่อทำตัวอาคารเสร็จแล้วจึงนำไปติดลงบนฐานแล้วเทด้วยปูนรอบๆตัวอาคารอีกที เพื่อจำลองลักษณะของกองซากปรักหักพังบนพื้นครับ
ส่วนฟิกเกอร์ที่นำมาใช้นั้น เป็นของ Dragon 6194 Panzergrenadiers Wiking Division ส่วนแขนของคนที่ถูกทับใต้ซากอาคารปั้นขึ้นมาจาก Magic Sculpt และใช้ชิ้นส่วนมือของ Hornet ทั้งหมดถูกพ่นรองพื้นไว้ด้วยสีดำของ Citadel ก่อนที่จะนำไปทำสีต่อไปครับ
Friday, December 4, 2015
Saturday, November 28, 2015
MV's Mad Max Car Contest - Issue 2
Please click on the banner for more info.
"MV's Mad Max Car Contest - Issue 2"
งานประกวดครั้งนี้ จัดโดยบล็อก MASSIVE VOODOO ครับ เป็นการประกวดการทำโมเดลยานพาหนะในรูปแบบของหนังเรื่อง Mad Max โดยไม่ได้จำกัดว่าจะต้องเป็นรถยนต์เท่านั้น สามารถทำรถบรรทุก มอเตอร์ไซค์ จักรยาน หรือแม้แต่เรือติดล้อ อยู่ที่จินตนาการของตัวท่านเองครับ
ส่วนการทำโมเดลแบบ Mad Max นั้น มีที่มาตามเนื้อเรื่องของหนังที่เกี่ยวกับโลกยุคหลังสงครามนิวเคลียร์ครับ ยานพาหนะต่างๆในเรื่องจึงเป็นการใช้ยานพาหนะที่มีในยุคปัจจุบัน และนำสิ่งของรวมถึงอาวุธต่างๆที่เหลือรอดจากสงครามมาดัดแปลงติดตั้ง เพื่อความอยู่รอดในช่วงกลียุคครับ ดังนั้นจะไม่มีการใช้อาวุธล้ำสมัยอย่างเช่นปืนเลเซอร์ หรือชิ้นส่วนจากยานอวกาศมาติด เป็นต้นครับ ส่วนรายละเอียดเพิ่มเติมอื่นๆในการประกวดก็จะมี
- ไม่จำกัดมาตราส่วนของโมเดลที่จะทำ
- ไม่จำกัดรูปแบบในการทำฐาน
- สามารถดัดแปลงรถที่จะทำส่งให้เป็นรูปแบบไหนก็ได้
- สามารถลงรูปขั้นตอนการทำงานได้ตามสะดวก
- ใช้ได้ทุกชิ้นส่วนของโมเดลที่คุณชอบและคิดว่ามันน่าสนุกหรือบ้าดีเมื่อนำมาประกอบกัน
- จะมีฟิกเกอร์หรือไม่มีก็ได้
- สามารถถามคำถามที่สงสัยเกี่ยวกับกติกาได้ที่โพสของงานประกวดในบล็อกของ MASSIVE VOODOO
- ส่งภาพถ่ายผลงานที่เสร็จแล้วได้ตลอดเวลาเมื่อคุณพร้อม
- หากมีผลงานที่ทำค้างเอาไว้และตรงกับหัวข้อของการประกวด สามารถนำมาทำต่อได้โดยไม่ต้องเริ่มทำงานชิ้นใหม่
- สามารถเข้าร่วมส่งประกวดได้ทุกคน ยกเว้นกรรมการ
สำหรับกติกาหลักจะแบ่งออกเป็น 4 ข้อ
Rule 1 - Contest End เริ่มส่งผลงานได้ตั้งแต่วันที่ 23 พฤศจิกายน 2015 และหมดเขตรับผลงานภายในวันที่ 30 มีนาคม 2016
Rule 2 - Photos ส่งภาพผลงานของท่านไปที่ mv(at)massivevoodoo.com โปรดระลึกว่านี่เป็นการประกวดที่ตัดสินจากภาพถ่าย หากคุณไม่สามารถถ่ายภาพผลงานของคุณได้ชัดเจน เราอาจจะตัดสินได้ไม่เหมาะสมกับคุณภาพผลงานของคุณ ดังนั้นควรถ่ายภาพให้ชัดเจน หลายมุมมอง และเน้นไปที่สิ่งที่คุณต้องการจะให้กรรมการเห็น
กรุณาส่งภาพถ่ายในขนาดธรรมดา ไม่ใหญ่มากจนเกินไปหรือมีขนาดหลายเมกกะไบต์ต่อภาพ
กรุณาส่งภาพถ่ายในแต่ละมุมโดยไม่นำภาพมาต่อกันเป็นภาพใหญ่ภาพเดียว
หลังจากที่ Roman ได้รับภาพถ่ายผลงานของคุณแล้ว จะส่งอีเมล์ยืนยันกลับมา แสดงว่าผลงานของคุณนั้นได้เข้าร่วมในการประกวดแล้ว และสามารถนำภาพถ่ายผลงานที่เสร็จแล้วของคุณลงเผยแพร่ตามสื่อต่างๆได้หลังจากที่ได้รับอีเมล์ยืนยันนี้
Rule 4 - Number of entries ผู้ส่งผลงานเข้าประกวด สามารถส่งผลงานได้เพียง 1 ชิ้น ต่อหนึ่งท่านเท่านั้น
รางวัล
มีทั้งสิ้นสามรางวัล คือ ทอง เงิน และ ทองแดง เป็นถ้วยรางวัลที่ปั้นขึ้นมาพิเศษสำหรับงานประกวดนี้เท่านั้น โดย Raffaele Picca “Picster” (ดูภาพถ้วยรางวัลได้ที่ลิ้งด้านบนครับ) และอาจจะมีรางวัลพิเศษเพิ่มเติม แต่ยังไม่ได้ยืนยันครับ
การตัดสิน
จะตัดสินโดย Roman Lappat "jarhead" และ Raffaele Picca “Picster” สมาชิกของทีม MASSIVE VOODOO ที่มีชื่อเสียงอย่างมากในแวดวงคนทำมิเนียเจอร์และมีประสบการณ์ในการตัดสินงานประกวดมาแล้วหลายครั้ง
เกณฑ์การตัดสิน
1. ความประทับใจของผลงานในภาพรวมที่กรรมการมีต่อผลงานของคุณ
2. แนวคิดและการนำเสนอ
3. ทักษะทางด้านเทคนิค (การดัดแปลง, การทำสี)
กรรมการจะไม่ตัดสินการทำฐาน บรรยากาศ คนหรือสัตว์ หรือสิ่งอื่นๆแบบแยกเป็นส่วนๆ แต่จะดูที่มุมมอง ความคิด และการสร้างผลงานของคุณในภาพรวมครับ
สามารถคลิ๊กที่ภาพด้านบนเพื่อดูรายละเอียดและกติกาในภาษาอังกฤษ รวมถึงภาพของถ้วยรางวัล ส่วนภาพผลงานที่เข้าร่วมในงานประกวดครั้งแรกสามารถเข้าไปดูได้ตามลิ้งด้านล่างครับ
MV MAD MAX CAR CONTEST 2011
ทั้งหมดนี้เป็นรายละเอียดและกติกาโดยรวมครับ หากมีคำถามอะไรเพิ่มเติมก็สอบถามกันเข้ามาได้นะครับ งานประกวดในรูปแบบนี้คงจะไม่มีให้ร่วมสนุกกันบ่อยนัก หวังว่าคงจะเป็นประโยชน์สำหรับท่านที่สนใจให้ได้ลองส่งผลงานร่วมสนุกกันนะครับ ขอให้สนุกกับการทำผลงานทุกท่านครับ :D
Witness meeeeeeeeee!!!!!
Wednesday, November 18, 2015
Some of my latest WIP projects
I am sorry I haven't posted anything here for a while. I have already finished Krom Dragongaze a few weeks ago but my camera was broken. I will take the finished photos of this project soon after I find a new lens or maybe get a new camera.
By the way, I am currently working on a WWII vignette. It is a scene about the 3rd SS.Panzer Division "Totenkopf" in Budapest, Hungary 1945. I started this project a few years ago then postponed it because I wanted to practice painting with Vallejo acrylics on miniature wargames. Now it's time to continue on my favorite subject and I hope I will be able to finish it this year. More info of this project will be posted soon.
สวัสดีครับ ก่อนอื่นต้องขออภัยที่ช่วงหลังๆมานี้ไม่ได้ลงความคืบหน้าใดๆเลย จริงๆงานที่ผมทำก่อนหน้านี้คือ Krom Dragongaze นั้นเสร็จไปได้ซักพักใหญ่ๆแล้ว แต่เนื่องจากกล้องที่ใช้งานเป็นประจำนั้นมีปัญหาอยู่ ก็เลยยังไม่ได้ถ่ายภาพงานที่เสร็จสมบูรณ์มาลง คงต้องรอให้เอากล้องไปซ่อมหรือไม่ก็หาซื้ออันใหม่เสียก่อน คงจะได้ถ่ายภาพมาลงอีกทีครับ ดังนั้นในตอนนี้ก็คงต้องใช้ภาพจากกล้องโทรศัพท์ไปก่อน
ส่วนงานที่กำลังทำอยู่ตอนนี้เป็นฉากจำลองขนาดเล็ก (vignette) เกี่ยวกับเรื่องราวของทหารเยอรมันหน่วย 3rd SS.Panzer Division "Totenkopf" ในการรบที่เมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองตอนปี 1945 ครับ ฉากนี้เป็นฉากเก่าที่ผมทำทิ้งไว้หลายปีแล้ว แล้วก็เก็บเอาไว้ไม่ได้ทำต่อเพราะตอนนั้นอยากจะมาฝึกฝนการเพนท์ด้วยสีอะครีลิคก่อน จนตอนนี้เลยคิดว่าน่าจะได้เวลาเอากลับมาทำต่อให้เสร็จเสียที ผมตั้งใจเอาไว้ว่าจะทำให้เสร็จภายในปีนี้ ตอนนี้ก็ทำไปได้พอสมควรแล้ว ไว้จะนำความคืบหน้ามาลงอีกทีครับ
In addition to a WWII vignette, I also made a couple of mass models from foam board as an example base for my new sci-fi projects. This method helps me to see what these vignettes would look like in overall then I can adjust its composition or dimension, also use it as a template when I start making the base with the real materials.
The first vignette is a scene of a maintenance area inside the underground base or maybe a spaceship, with Ma.K (Maschinen Krieger) robot in 1/35 scale and a figure from Mantis Miniatures. The second scene is about an urban combat with the models from Dust Tactics in 1/48 scale. I will post more updates of these projects soon after I finished other projects. Please stay tuned!
นอกเหนือไปจากฉากช่วงสงครามโลกแล้ว ผมยังทำโมเดลต้นแบบของฐานสำหรับฉากในแนวไซไฟที่คิดจะทำในอนาคตด้วยครับ โดยทำขึ้นมาจากแผ่นโฟมบอร์ด เพื่อไว้ใช้ดูเป็นตัวอย่างในการจัดวางองค์ประกอบของสิ่งต่างๆลงบนฐาน รวมไปถึงขนาดของตัวฉากและสิ่งก่อสร้างภายใน วิธีการสร้างโมเดลต้นแบบนี้จะช่วยให้เรามองเห็นภาพรวมของฉากว่าจะออกมาเป็นเช่นไร ทำให้เราทดลองจัดวางและปรับเปลี่ยนองค์ประกอบหรือขนาดต่างๆให้เหมาะสมได้สะดวก และยังเอาไว้ใช้เป็นแม่แบบในการวัดขนาดต่างๆเวลาที่จะสร้างฐานขึ้นมาด้วยวัสดุจริง ซึ่งจะช่วยให้การสร้างฐานที่มีโครงสร้างซับซ้อนนั้นทำใด้ง่ายขึ้นครับ
สำหรับฉากอันแรกจะเป็นฉากของโรงซ่อมหุ่นภายในฐานทัพใต้ดินหรืออาจจะเป็นภายในยานอวกาศครับ โดยใช้หุ่น Ma.K (Maschinen Krieger) ในขนาด 1/35 กับฟิกเกอร์ของ Mantis Miniature ส่วนฉากที่สองจะเป็นเรื่องของการสู้รบภายในเมือง โดยใช้โมเดลจาก Dust Tactics ในขนาด 1/48 ครับ ซึ่งที่เห็นนึ้เป็นรูปแบบที่คิดว่าจัดวางลงตัวแล้ว แต่อาจจะมีการปรับขนาดของฉากอีกครั้ง ไว้พอเริ่มนำไปสร้างฉากจริงเมื่อไหร่คงจะนำความคืบหน้ามาลงอีกทีครับ
By the way, I am currently working on a WWII vignette. It is a scene about the 3rd SS.Panzer Division "Totenkopf" in Budapest, Hungary 1945. I started this project a few years ago then postponed it because I wanted to practice painting with Vallejo acrylics on miniature wargames. Now it's time to continue on my favorite subject and I hope I will be able to finish it this year. More info of this project will be posted soon.
สวัสดีครับ ก่อนอื่นต้องขออภัยที่ช่วงหลังๆมานี้ไม่ได้ลงความคืบหน้าใดๆเลย จริงๆงานที่ผมทำก่อนหน้านี้คือ Krom Dragongaze นั้นเสร็จไปได้ซักพักใหญ่ๆแล้ว แต่เนื่องจากกล้องที่ใช้งานเป็นประจำนั้นมีปัญหาอยู่ ก็เลยยังไม่ได้ถ่ายภาพงานที่เสร็จสมบูรณ์มาลง คงต้องรอให้เอากล้องไปซ่อมหรือไม่ก็หาซื้ออันใหม่เสียก่อน คงจะได้ถ่ายภาพมาลงอีกทีครับ ดังนั้นในตอนนี้ก็คงต้องใช้ภาพจากกล้องโทรศัพท์ไปก่อน
ส่วนงานที่กำลังทำอยู่ตอนนี้เป็นฉากจำลองขนาดเล็ก (vignette) เกี่ยวกับเรื่องราวของทหารเยอรมันหน่วย 3rd SS.Panzer Division "Totenkopf" ในการรบที่เมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองตอนปี 1945 ครับ ฉากนี้เป็นฉากเก่าที่ผมทำทิ้งไว้หลายปีแล้ว แล้วก็เก็บเอาไว้ไม่ได้ทำต่อเพราะตอนนั้นอยากจะมาฝึกฝนการเพนท์ด้วยสีอะครีลิคก่อน จนตอนนี้เลยคิดว่าน่าจะได้เวลาเอากลับมาทำต่อให้เสร็จเสียที ผมตั้งใจเอาไว้ว่าจะทำให้เสร็จภายในปีนี้ ตอนนี้ก็ทำไปได้พอสมควรแล้ว ไว้จะนำความคืบหน้ามาลงอีกทีครับ
(these photos were taken with my phone)
In addition to a WWII vignette, I also made a couple of mass models from foam board as an example base for my new sci-fi projects. This method helps me to see what these vignettes would look like in overall then I can adjust its composition or dimension, also use it as a template when I start making the base with the real materials.
The first vignette is a scene of a maintenance area inside the underground base or maybe a spaceship, with Ma.K (Maschinen Krieger) robot in 1/35 scale and a figure from Mantis Miniatures. The second scene is about an urban combat with the models from Dust Tactics in 1/48 scale. I will post more updates of these projects soon after I finished other projects. Please stay tuned!
นอกเหนือไปจากฉากช่วงสงครามโลกแล้ว ผมยังทำโมเดลต้นแบบของฐานสำหรับฉากในแนวไซไฟที่คิดจะทำในอนาคตด้วยครับ โดยทำขึ้นมาจากแผ่นโฟมบอร์ด เพื่อไว้ใช้ดูเป็นตัวอย่างในการจัดวางองค์ประกอบของสิ่งต่างๆลงบนฐาน รวมไปถึงขนาดของตัวฉากและสิ่งก่อสร้างภายใน วิธีการสร้างโมเดลต้นแบบนี้จะช่วยให้เรามองเห็นภาพรวมของฉากว่าจะออกมาเป็นเช่นไร ทำให้เราทดลองจัดวางและปรับเปลี่ยนองค์ประกอบหรือขนาดต่างๆให้เหมาะสมได้สะดวก และยังเอาไว้ใช้เป็นแม่แบบในการวัดขนาดต่างๆเวลาที่จะสร้างฐานขึ้นมาด้วยวัสดุจริง ซึ่งจะช่วยให้การสร้างฐานที่มีโครงสร้างซับซ้อนนั้นทำใด้ง่ายขึ้นครับ
สำหรับฉากอันแรกจะเป็นฉากของโรงซ่อมหุ่นภายในฐานทัพใต้ดินหรืออาจจะเป็นภายในยานอวกาศครับ โดยใช้หุ่น Ma.K (Maschinen Krieger) ในขนาด 1/35 กับฟิกเกอร์ของ Mantis Miniature ส่วนฉากที่สองจะเป็นเรื่องของการสู้รบภายในเมือง โดยใช้โมเดลจาก Dust Tactics ในขนาด 1/48 ครับ ซึ่งที่เห็นนึ้เป็นรูปแบบที่คิดว่าจัดวางลงตัวแล้ว แต่อาจจะมีการปรับขนาดของฉากอีกครั้ง ไว้พอเริ่มนำไปสร้างฉากจริงเมื่อไหร่คงจะนำความคืบหน้ามาลงอีกทีครับ
Friday, October 16, 2015
Krom Dragongaze (part 6)
Here is the finished base before adding snow. It was made from Magic Sculpt by rolling into thin sheet and cut into pieces with side cutter, then glued to the base and sanded the excess that over from the edge. The ork skull came from the Krom kit, I cut it from its base and placed in a new position. The ground was made from soil and glued to the base with super glue then added dry grass made from hemp rope.
ภาพส่วนของฐานที่ทำสีเสร็จแล้วก่อนที่จะทำส่วนของหิมะครับ ผมใช้อีพ็อกซี่ Magic Sculpt มาทำฐาน โดยการนำไปรีดเป็นแผ่นแล้วตัดออกมาเป็นชิ้นๆด้วยคีมตัดพลาสติก จากนั้นนำมาจัดเรียงแล้วติดกาวลงบนฐาน เมื่อกาวแห้งแล้วก็ขัดส่วนที่เกินจากขอบฐานให้ขอบนั้นเรียบเสมอกัน ก็จะได้ขอบฐานแบบที่เห็น จากนั้นก็ทากาวช้างแล้วใช้ดินมาโรยทำเป็นพื้น นำหินก้อนเล็กๆมาติด และทำกอหญ้าแห้งจากเชือกป่านครับ ส่วนหัวกะโหลกของออร์คนั้นมีมาให้พร้อมกับมินิตัวนี้ครับ ผมตัดออกมาจากฐานเดิมของมันแล้วนำมาจัดวางใหม่
For making snow, I used snow flock from Gale Force Nine. This product has very fine grain and easy to use. I mixed it with Vallejo Satin Varnish and painted on the base with an old paint brush. It was done twice in order to create more volume of snow.
I am quite happy with the result of this method, because the color of the snow does not look too bright (or too white) in my opinion. I can glaze over the snow with White again if I want or maybe mix a bit of White in the mixture next time.
ส่วนการทำหิมะ ผมใช้ผงหิมะเทียมของ Gale Force Nine ครับ จะมีลักษณะของเกล็ดหิมะที่ค่อนข้างละเอียดเป็นผงเล็กๆสีขาว ผมนำมันไปผสมกับ Satin Varnish ของ Vallejo แล้วนำไปทาลงบนฐานด้วยพู่กันเล็กๆ ตอนที่หิมะยังเปียกอยู่นี้มันจะดูเป็นก้อนใหญ่จากสีที่ผสมอยู่ แต่เมื่อแห้งแล้วมันจะยุบตัวลงไปพอสมควร ดังนั้นจึงต้องมาทับอีกรอบเพื่อให้หิมะนั้นมีปริมาตรมากขึ้นและดูเป็นก้อนครับ
ส่วนตัวแล้วผมค่อนข้างพอใจกับการทำหิมะด้วยวิธีนี้ เพราะว่าง่ายในการทำและหิมะนั้นจับตัวเป็นก้อนได้ดีและมีพิ้นผิวที่ดูเป็นเกล็ดเล็กๆ รวมถึงสีของหิมะนั้นไม่ดูสว่างหรือขาวเกินไป แต่ถ้าอยากให้ดูขาวมากกว่านี้ก็อาจจะใช้สีขาวผสมกับ Satin หรือ Gloss Varnish มาทาเคลือบบางๆอีกรอบ หรือไม่ก็อาจจะผสมสีขาวเพิ่มไปในส่วนผสมของหิมะกับสีเคลือบตั้งแต่ต้นเลยก็ได้ครับ
ภาพส่วนของฐานที่ทำสีเสร็จแล้วก่อนที่จะทำส่วนของหิมะครับ ผมใช้อีพ็อกซี่ Magic Sculpt มาทำฐาน โดยการนำไปรีดเป็นแผ่นแล้วตัดออกมาเป็นชิ้นๆด้วยคีมตัดพลาสติก จากนั้นนำมาจัดเรียงแล้วติดกาวลงบนฐาน เมื่อกาวแห้งแล้วก็ขัดส่วนที่เกินจากขอบฐานให้ขอบนั้นเรียบเสมอกัน ก็จะได้ขอบฐานแบบที่เห็น จากนั้นก็ทากาวช้างแล้วใช้ดินมาโรยทำเป็นพื้น นำหินก้อนเล็กๆมาติด และทำกอหญ้าแห้งจากเชือกป่านครับ ส่วนหัวกะโหลกของออร์คนั้นมีมาให้พร้อมกับมินิตัวนี้ครับ ผมตัดออกมาจากฐานเดิมของมันแล้วนำมาจัดวางใหม่
For making snow, I used snow flock from Gale Force Nine. This product has very fine grain and easy to use. I mixed it with Vallejo Satin Varnish and painted on the base with an old paint brush. It was done twice in order to create more volume of snow.
I am quite happy with the result of this method, because the color of the snow does not look too bright (or too white) in my opinion. I can glaze over the snow with White again if I want or maybe mix a bit of White in the mixture next time.
ส่วนการทำหิมะ ผมใช้ผงหิมะเทียมของ Gale Force Nine ครับ จะมีลักษณะของเกล็ดหิมะที่ค่อนข้างละเอียดเป็นผงเล็กๆสีขาว ผมนำมันไปผสมกับ Satin Varnish ของ Vallejo แล้วนำไปทาลงบนฐานด้วยพู่กันเล็กๆ ตอนที่หิมะยังเปียกอยู่นี้มันจะดูเป็นก้อนใหญ่จากสีที่ผสมอยู่ แต่เมื่อแห้งแล้วมันจะยุบตัวลงไปพอสมควร ดังนั้นจึงต้องมาทับอีกรอบเพื่อให้หิมะนั้นมีปริมาตรมากขึ้นและดูเป็นก้อนครับ
ส่วนตัวแล้วผมค่อนข้างพอใจกับการทำหิมะด้วยวิธีนี้ เพราะว่าง่ายในการทำและหิมะนั้นจับตัวเป็นก้อนได้ดีและมีพิ้นผิวที่ดูเป็นเกล็ดเล็กๆ รวมถึงสีของหิมะนั้นไม่ดูสว่างหรือขาวเกินไป แต่ถ้าอยากให้ดูขาวมากกว่านี้ก็อาจจะใช้สีขาวผสมกับ Satin หรือ Gloss Varnish มาทาเคลือบบางๆอีกรอบ หรือไม่ก็อาจจะผสมสีขาวเพิ่มไปในส่วนผสมของหิมะกับสีเคลือบตั้งแต่ต้นเลยก็ได้ครับ
Monday, October 12, 2015
"A Wave of Heroes"
Sculpted & Painted by Bill Horan
Yesterday I was so lucky to see the latest finished project by Bill Horan at SCAHMS meeting in La Palma. It's truly another masterpiece from him and I don't have to say anything more because his work speaks for itself. It was pity that I didn't bring my camera yesterday so I have only a few photos from my phone, sorry about the poor quality. I really want to share it with you guys and hope you all enjoy it!
เมื่อวานมีโอกาสได้ชมผลงานชิ้นล่าสุดของ Bill Horan ที่งานมีตติ้งของ SCAHMS ครับ เป็นผลงานที่น่าทึ่งมากๆและก็โชคดีมากๆที่ได้ดูชิ้นงานจริง เลยถ่ายภาพมาฝากกันครับ น่าเสียดายที่เมื่อวานผมไม่ได้เอากล้องติดไปเลยมีแค่ภาพที่ถ่ายมาจากโทรศัพท์เท่านั้น ขออภัยที่ภาพอาจจะดูไม่ค่อยชัดเท่าไหร่ หวังว่าคงจะชอบกันนะครับ
Friday, October 2, 2015
Krom Dragongaze (part 5)
For painting the wolf cloak, I decided to use the same color scheme as seen on Krom Dragongaze's official picture. It was done by using wet blending technique to create gradation of color from dark on the top to light on the bottom, then added a highlight on each fur with a lighter color to create details and depth. For example, use Leather Brown to highlight Dark Brown, use Leather Brown + Sand Yellow to highlight Leather Brown, use Sand Yellow to highlight Leather Brown + Sand Yellow, etc.
สำหรับการเพนท์สีของผ้าคลุมหมาป่า ผมเลือกที่จะทำสีในโทนน้ำตาลแบบเดียวกับที่เห็นในภาพโปรโมทของมินิตัวนี้ เป็นสีน้ำตาลเข้มที่ส่วนหัวของหมาป่าแล้วไล่ระดับสีจนเป็นสีอ่อนที่ส่วนเท้า โดยผมใช้การทาไล่สีหรือเกลี่ยสีแบบเปียกที่เรียกกันว่า wet blending ซึ่งจะเหมาะกับลักษณะของพื้นผิวที่ขรุขระแบบนี้ เพราะสีจะค้างอยู่ตามร่องทำให้สีนั้นแห้งช้าลง มีเวลาในการเกลี่ยสีมากขึ้น ทำให้การทาเกลี่ยไล่ระดับสีจากอ่อนไปแก่นั้นทำได้ง่ายขึ้น จากนั้นจึงค่อยมาทาเก็บสีไฮไลท์บนขนแต่ละเส้นอีกครั้งด้วยสีที่อ่อนกว่า จะเป็นการเพิ่มรายละเอียดให้กับเส้นขนและทำให้ขนนั้นดูมีมิติมากขึ้นด้วย
ตัวอย่างของการทาด้วยสีที่อ่อนกว่า หากสีขนตรงบริเวณนั้นเป็นสีเข้มอย่าง Dark Brown ให้ใช้สีที่อ่อนกว่าอย่าง Leather Brown มาทาเป็นไฮไลท์ หรือถ้าสีขนบริเวณนั้นเป็นสี Leather Brown ให้ใช้สีที่อ่อนกว่าอย่าง Leather Brown ผสมกับ Sand Yellow มาทาเป็นไฮไลท์ เป็นต้น
For painting the force axe, I used Intense Blue (VMC 70925) mixed with Turquoise (VMC 70966) for the axe blade. The rest was finished with NMM technique and you can see a list of the colors for NMM below.
NMM Gold; Scrofulous Brown (VGC 72038), Armor Brown (VMA 71041), White (VMC 70951) *Ben Komets's recipe.
NMM Silver; Intermediate Blue (VMC 70903), Turquoise (VMC 70966), White (VMC 70951), Black (VMC 70950)
ส่วนการทำสีของขวาน ผมใช้สี Intense Blue (VMC 70925) ผสมกับ Turquoise (VMC 70966) เป็นส่วนของใบขวาน ส่วนสีโลหะที่เหลือจะใช้การเพนท์ด้วยเทคนิค NMM (Non-Metallic Metal) และสามารถดูรายชื่อสีที่ใช้ได้ด้านล่างครับ
NMM Gold; Scrofulous Brown (VGC 72038), Armor Brown (VMA 71041), White (VMC 70951) *Ben Komets's recipe.
NMM Silver; Intermediate Blue (VMC 70903), Turquoise (VMC 70966), White (VMC 70951), Black (VMC 70950)
สำหรับการเพนท์สีของผ้าคลุมหมาป่า ผมเลือกที่จะทำสีในโทนน้ำตาลแบบเดียวกับที่เห็นในภาพโปรโมทของมินิตัวนี้ เป็นสีน้ำตาลเข้มที่ส่วนหัวของหมาป่าแล้วไล่ระดับสีจนเป็นสีอ่อนที่ส่วนเท้า โดยผมใช้การทาไล่สีหรือเกลี่ยสีแบบเปียกที่เรียกกันว่า wet blending ซึ่งจะเหมาะกับลักษณะของพื้นผิวที่ขรุขระแบบนี้ เพราะสีจะค้างอยู่ตามร่องทำให้สีนั้นแห้งช้าลง มีเวลาในการเกลี่ยสีมากขึ้น ทำให้การทาเกลี่ยไล่ระดับสีจากอ่อนไปแก่นั้นทำได้ง่ายขึ้น จากนั้นจึงค่อยมาทาเก็บสีไฮไลท์บนขนแต่ละเส้นอีกครั้งด้วยสีที่อ่อนกว่า จะเป็นการเพิ่มรายละเอียดให้กับเส้นขนและทำให้ขนนั้นดูมีมิติมากขึ้นด้วย
ตัวอย่างของการทาด้วยสีที่อ่อนกว่า หากสีขนตรงบริเวณนั้นเป็นสีเข้มอย่าง Dark Brown ให้ใช้สีที่อ่อนกว่าอย่าง Leather Brown มาทาเป็นไฮไลท์ หรือถ้าสีขนบริเวณนั้นเป็นสี Leather Brown ให้ใช้สีที่อ่อนกว่าอย่าง Leather Brown ผสมกับ Sand Yellow มาทาเป็นไฮไลท์ เป็นต้น
For painting the force axe, I used Intense Blue (VMC 70925) mixed with Turquoise (VMC 70966) for the axe blade. The rest was finished with NMM technique and you can see a list of the colors for NMM below.
NMM Gold; Scrofulous Brown (VGC 72038), Armor Brown (VMA 71041), White (VMC 70951) *Ben Komets's recipe.
NMM Silver; Intermediate Blue (VMC 70903), Turquoise (VMC 70966), White (VMC 70951), Black (VMC 70950)
ส่วนการทำสีของขวาน ผมใช้สี Intense Blue (VMC 70925) ผสมกับ Turquoise (VMC 70966) เป็นส่วนของใบขวาน ส่วนสีโลหะที่เหลือจะใช้การเพนท์ด้วยเทคนิค NMM (Non-Metallic Metal) และสามารถดูรายชื่อสีที่ใช้ได้ด้านล่างครับ
NMM Gold; Scrofulous Brown (VGC 72038), Armor Brown (VMA 71041), White (VMC 70951) *Ben Komets's recipe.
NMM Silver; Intermediate Blue (VMC 70903), Turquoise (VMC 70966), White (VMC 70951), Black (VMC 70950)
Tuesday, September 29, 2015
Figure Painter Magazine issue 29. Out Now!
The second part of my tutorial "Building & Painting a Ruined Marble Columns Base" is now published in Figure Painter Magazine issue 29. You can also find other great articles such as Insight Interview with Fernando Ruiz, Inspiration with Bogus Bohun Stupnicki, Inspiration with Nadia Reka and many more.
If you are interested, please click on the FPM logo below to visit their website.
ในฉบับนี้นอกจากจะมีบทความตอนที่สองของ Building & Painting a Ruined Marble Columns Base ของผมแล้ว ยังมีบทความอื่นๆที่น่าสนใจ เช่น บทสัมภาษณ์ของ Fernando Ruiz เจ้าของ FeR Miniatures ที่ได้ลงบทความสอนการเพนท์ Hospitaller Knight ในฉบับที่ผ่านมา และยังมีบทสัมภาษณ์ของ Bogus Bohun Stupnicki และ Nadia Reka รวมถึงบทความอื่นๆอีกมากมายครับ
หากสนใจและต้องการทราบรายละเอียดเพิ่มเติม หรือต้องการชมตัวอย่างเนื้อหาของแต่ละฉบับ สามารถเข้าไปชมได้ที่เว็บไซต์ของเค้าตามลิ้งค์ด้านล่างครับ
Saturday, September 26, 2015
Krom Dragongaze (part 4)
A quick update on this project. Here are some shots of the finished backpack. The skull and bones was painted with Vallejo 70871 Leather Brown mixed with 70837 Sand Light as a base color, mixed with 70951 White for highlights and 70822 German Camo. Black Brown for shadows.
เพิ่มเติมภาพของแบ็คแพ็คที่ทำสีเสร็จแล้วครับ สีของส่วนโครงกระดูกใช้การผสมจากสีหลักๆคือ 70871 Leather Brown + 70837 Sand Light เป็นสีพื้น แล้วนำไปผสมกับสีขาว 70951 White เพื่อเป็นสีไฮไลท์ และผสมกับสีน้ำตาล 70822 German Camo. Black Brown เพื่อเป็นสีของเงาครับ
เพิ่มเติมภาพของแบ็คแพ็คที่ทำสีเสร็จแล้วครับ สีของส่วนโครงกระดูกใช้การผสมจากสีหลักๆคือ 70871 Leather Brown + 70837 Sand Light เป็นสีพื้น แล้วนำไปผสมกับสีขาว 70951 White เพื่อเป็นสีไฮไลท์ และผสมกับสีน้ำตาล 70822 German Camo. Black Brown เพื่อเป็นสีของเงาครับ
Friday, September 18, 2015
Krom Dragongaze (part 3)
I forgot to mention on the part 2 about the color on the armor. I glazed the shadow area with VMC Royal Purple in order to create more color variety on the armor rather than the colors from the mixture of Blue (The Fang from Citadel), Black and White.
In these close-up photos, you can see some visible purple glaze on the area between shadow and base color. It might not clearly seen on the mini or especially on the photo, but I think this little touch up makes the mini look more interesting (even just a bit). :)
ในโพสที่แล้วของงานชิ้นนี้ผมลืมพูดถึงเรื่องของสีบนเกราะไปครับ เกี่ยวกับการทาสีแบบเกลซลงบนส่วนพื้นที่เงามืดด้วยสี VMC Royal Purple เพื่อให้สีบนเกราะนั้นดูหลากหลายมากขึ้น นอกเหนือไปจากการใช้เฉดสีสำหรับชุดเกราะที่ผสมมาจากสามสีคือ Blue (The Fang from Citadel), Black และ White ครับ
ในภาพที่ขยายมานี้ จะเห็นส่วนของสีม่วงที่เคลือบบางๆอยู่ตรงบริเวณระหว่างสีของเงาและสีพื้นครับ มันอาจจะมองเห็นไม่ค่อยชัดเจนบนตัวมินิหรือในรูปภาพที่ถ่ายมา เพราะเป็นเพียงแค่ส่วนเล็กๆที่อาจจะดูไม่เด่นเท่าส่วนอื่นๆ แต่ผมคิดว่ามันเหมือนกับเป็นการใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆน้อยๆ ที่จะช่วยให้ผลงานของเรานั้นดูน่าสนใจขึ้นกว่าการให้แสงเงาแบบเรียบๆทั่วไป (อันนี้เป็นข้อดีของโมเดลแนวแฟนตาซี ที่ทำให้เราสามารถใส่จินตนาการได้เต็มที่ครับ) และเมื่อผลงานนั้นเสร็จสมบูรณ์ ส่วนเล็กๆเหล่านี้ก็จะเป็นอีกส่วนหนึ่งที่ช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้กับผลงานของเราในภาพรวมครับ :)
In these close-up photos, you can see some visible purple glaze on the area between shadow and base color. It might not clearly seen on the mini or especially on the photo, but I think this little touch up makes the mini look more interesting (even just a bit). :)
ในโพสที่แล้วของงานชิ้นนี้ผมลืมพูดถึงเรื่องของสีบนเกราะไปครับ เกี่ยวกับการทาสีแบบเกลซลงบนส่วนพื้นที่เงามืดด้วยสี VMC Royal Purple เพื่อให้สีบนเกราะนั้นดูหลากหลายมากขึ้น นอกเหนือไปจากการใช้เฉดสีสำหรับชุดเกราะที่ผสมมาจากสามสีคือ Blue (The Fang from Citadel), Black และ White ครับ
ในภาพที่ขยายมานี้ จะเห็นส่วนของสีม่วงที่เคลือบบางๆอยู่ตรงบริเวณระหว่างสีของเงาและสีพื้นครับ มันอาจจะมองเห็นไม่ค่อยชัดเจนบนตัวมินิหรือในรูปภาพที่ถ่ายมา เพราะเป็นเพียงแค่ส่วนเล็กๆที่อาจจะดูไม่เด่นเท่าส่วนอื่นๆ แต่ผมคิดว่ามันเหมือนกับเป็นการใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆน้อยๆ ที่จะช่วยให้ผลงานของเรานั้นดูน่าสนใจขึ้นกว่าการให้แสงเงาแบบเรียบๆทั่วไป (อันนี้เป็นข้อดีของโมเดลแนวแฟนตาซี ที่ทำให้เราสามารถใส่จินตนาการได้เต็มที่ครับ) และเมื่อผลงานนั้นเสร็จสมบูรณ์ ส่วนเล็กๆเหล่านี้ก็จะเป็นอีกส่วนหนึ่งที่ช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้กับผลงานของเราในภาพรวมครับ :)
Friday, August 28, 2015
New Publications section
I added a new publications section to the menu bar on top of the page. Now you can find my published tutorials in this section. If you are interested, please take a look on the menu bar or click [HERE] :)
ผมเพิ่มส่วนของ หน้ารวมเฉพาะบทความที่ตีพิมพ์ลงในนิตยสาร (Publications) เอาไว้ในแถบรายชื่อบริเวณด้านบนของบล็อกครับ (อยู่ใต้โลโก้) บทความเหล่านี้ถูกตีพิมพ์ลงในนิตยสารเป็นภาษาอังกฤษ และเป็นบทความที่ไม่ได้นำมาเผยแพร่ลงในบล็อกครับ หากท่านสนใจในบทความเหล่านี้ ลองเข้าไปดูได้ที่แถบรายชื่อด้านบนของบล็อก เลือกที่ Publications จากนั้นคลิ้กที่รูปของแต่ละบทความเพื่อเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ของนิตยสารครับ :)
ผมเพิ่มส่วนของ หน้ารวมเฉพาะบทความที่ตีพิมพ์ลงในนิตยสาร (Publications) เอาไว้ในแถบรายชื่อบริเวณด้านบนของบล็อกครับ (อยู่ใต้โลโก้) บทความเหล่านี้ถูกตีพิมพ์ลงในนิตยสารเป็นภาษาอังกฤษ และเป็นบทความที่ไม่ได้นำมาเผยแพร่ลงในบล็อกครับ หากท่านสนใจในบทความเหล่านี้ ลองเข้าไปดูได้ที่แถบรายชื่อด้านบนของบล็อก เลือกที่ Publications จากนั้นคลิ้กที่รูปของแต่ละบทความเพื่อเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ของนิตยสารครับ :)
Monday, August 24, 2015
My latest tutorial in Figure Painter Magazine Issue 28
In this issue of FPM, you will find my tutorial "Building & Painting a Ruined Marble Columns Base" part 1. It is about how I made a base from start to finish and focused on using sponge technique to imitate the appearance of marble. It was the base I made for my recent project "Night Lords Night Raptor" and you can find the final photos of this project [HERE]. However, there are also many great articles in this issue such as Insight Interview with Danilo Cartacci, Hospitaller Knight by Fernando Ruiz and many more.
"Figure Painter Magazine" is an e-magazine and only available for digital download (in PDF format ). It cost £1.30 ($2.04) per issue. If you are interested in this magazine, please click on the FPM logo below to visit their website.
The second part of this tutorial will be published in the next issue of FPM. Please stay tuned!
ในฉบับล่าสุดของนิตยสาร Figure Painter Magazine จะมีบทความล่าสุดของผม "Building & Painting a Ruined Marble Columns Base" ตีพิมพ์อยู่ครับ เป็นบทความเกี่ยวกับการสร้างและทำสีฐานขนาดเล็กสำหรับจัดแสดงตัวโมเดลครับ โดยในบทความนี้จะมุ่งเน้นไปที่วิธีการทำสีด้วยฟองน้ำ (Sponge Technique) เพื่อจำลองลักษณะพื้นผิวของเสาหินอ่อน และจะอธิบายวิธีการทำแบบละเอียดทีละขั้นพร้อมภาพประกอบ ซึ่งฐานที่นำมาเขียนบทความนี้ เป็นฐานที่ผมทำสำหรับงาน "Night Lords Night Raptor" ที่เคยลงภาพผลงานที่เสร็จสมบูรณ์ไว้แล้วก่อนหน้านี้ ลองเข้าไปชมได้ที่นี่ครับ [HERE] ส่วนที่ตีพิมพ์ในฉบับนี้นั้นเป็นบทความตอนที่ 1 ส่วนตอนที่ 2 จะถูกตีพิมพ์ใน FPM ฉบับถัดไปครับ
นอกจากนี้แล้ว ใน FPM ฉบับนี้ก็ยังมีบทความอื่นๆที่น่าสนใจมากมาย เช่น บทสัมภาษณ์ของ Danilo Cartacci เจ้าของผลงาน Best Of Show ของงาน Euromilitaire ปีที่ป่านมา รวมถึงบทความสอนการเพนท์ฟิกเกอร์ Hospitaller Knight แบบทีละขั้น โดย Fernando Ruiz เป็นต้นครับ
Figure Painter Magazine เป็นหนังสือภาษาอังกฤษ ในรูปแบบนิตยสารอิเล็คทรอนิกส์ (e-magazine) เกี่ยวกับการทำบุคคลจำลอง ทั้งประเภทประวัติศาสตร์และไซไฟแฟนตาซี มีทั้งบทความสัมภาษณ์คนที่มีชื่อเสียงต่างๆ บทความสอนการทำสี การปั้น สอนเทคนิคต่างๆ รวมไปถึงข่าวคราวความเคลื่อนไหวในวงการ ทั้งงานประกวดและสินค้าออกใหม่ครับ
จำหน่ายผ่านทางการดาวน์โหลดจากในเว็บไซต์ของเค้า ในรูปแบบของไฟล์ PDF ในราคา £1.30 ปอนด์ของอังกฤษ หรือประมาณ 73 บาทครับ หากสนใจและต้องการทราบรายละเอียดเพิ่มเติม หรือต้องการชมตัวอย่างเนื้อหาของแต่ละฉบับ สามารถเข้าไปชมได้ที่เว็บไซต์ของเค้า โดยคลิ๊กที่รูปโลโก้ด้านบนครับ
Monday, August 17, 2015
Krom Dragongaze (part 2)
Here are some close-up shots of the finished head. I used Vallejo 70955 Flat Flesh, 70815 Basic Skintone, 70928 Light Flesh and 70343 Shadow Flesh for the skin tone, and used 70890 Reflective Green for glazing. I decided to paint a red mohawk along with a skinhead hairstyle in order to make it look more attractive with these tiny details. The skinhead was painted by applying the base color mixed from Dark Brown and Flat Flesh, then dotting several layers of dots from dark to light color (also mixed from Dark Brown and Flat Flesh). The overlapping of the dots on each layer helps to simulate an appearance of the skinhead.
On the second photo, I added a small photo that is closer to an actual size of the mini to compare with the close-up shot (right click on the photo to open the actual size). It's good for me to check any mistakes on the photo when I finished some areas, because sometimes the details are too small and I can not recognize it with my eyes. You can see on the edge of the left shoulder, it should look like a highlight on the edge instead of a dotted line. I will fix it later and more updates will be posted soon.
ภาพเพิ่มเติมของส่วนหัวที่ทำสีเสร็จแล้วครับ สำหรับโทนสีเนื้อของตัวนี้ผมใช้สีของ Vallejo เบอร์ 70955 Flat Flesh, 70815 Basic Skintone, 70928 Light Flesh และ 70343 Shadow Flesh และใช้ 70890 Reflective Green ในการ glazing ครับ
ในส่วนของสีผม ผมเลือกที่จะทำแบบสีแดงอมส้มและเพิ่มผมสั้นแบบสกินเฮดลงไปบริเวณด้านข้างของโมฮอค เพื่อที่จะให้รายละเอียดเล็กน้อยเหล่านี้ทำให้ตัวมินินั้นดูน่าสนใจมากขึ้นครับ ส่วนการทำสีผมแบบสกินเฮดนั้น ทำโดยทาสีพื้นก่อนเป็นอันดับแรกเพื่อกำหนดขอบเขตของแนวผม ด้วยสีน้ำตาลเข้มผสมกับสีผิว (Flat Flesh) จากนั้นพยายามจุดด้วยปลายพู่กันให้เป็นจุดเล็กๆ กระจายไปทั่วๆ โดยไล่ระดับจากสีเข้มไปยังสีอ่อนทับกันไปเป็นชั้นๆ (สีเข้มและอ่อนนี้ผสมจาก สีน้ำตาลเข้มและสีผิว) จุดสีที่เหลื่อมๆกันบนพื้นผิวจะช่วยจำลองลักษณะของผมสั้นเป็นตอแบบทรงสกินเฮดครับ
ในภาพที่สอง ผมใส่ภาพเล็กๆเข้าไปตรงมุม เป็นภาพที่ย่อให้มีขนาดใกล้เคียงกับขนาดเท่าจริงของตัวมินิ เพื่อจะได้เปรียบเทียบกับภาพที่ขยายมานี้ครับ (ลองคลิ้กขวาที่รูปเพื่อดูภาพขนาดเต็มครับ) จะเห็นว่าเมื่อขยายภาพมาจะช่วยให้เห็นรายละเอียดต่างๆได้ง่ายขึ้น รวมถึงช่วยให้เห็นความผิดพลาดได้ชัดเจนขึ้นด้วย เพราะบางครั้งรายละเอียดต่างๆจะมีขนาดที่เล็กมากและอาจจะไม่ทันสังเกตเห็นด้วยตาของเราเองครับ ดังนั้นการถ่ายภาพมาและขยายดูจะช่วยให้เราเห็นความผิดพลาดและแก้ไขผลงานได้ง่ายขึ้นครับ อย่างในภาพที่สองนี้ลองสังเกตตรงขอบของเกราะที่ไหล้ซ้าย ที่ผมตั้งใจจะทำไฮไลท์ตรงส่วนขอบ แต่พอขยายดูแล้วมันเหมือนกับเส้นประมากกว่า ซึ่งก็คงจะไปแก้ไขในภายหลังและจะนำความคืบหน้ามาลงอีกทีครับ :)
Sunday, August 9, 2015
Krom Dragongaze (part 1)
Hello guys, I'm sorry I haven't updated my blog in a while. Here are some shots from my latest project "Krom Dragongaze" Wolf Lord of the Space Wolves Space Marine. I decided to finish this project first instead of other historical projects that I posted a while ago.
Krom's face was painted in the same time while I was painting faces for other historical projects, I just glazed over the shadow area with some green in order to make it look a bit different than others. I also finished the colour on the armour with The Fang from Citadel, maybe I will add more highlight and scratches on the armour later. This is just an early stage of this project, still have a lot of work to do. I'll post an update soon. :)
สวัสดีครับทุกๆท่าน ขออภัยที่ไม่ได้ลงความคืบหน้าใดๆในบล็อกเลยในช่วงที่ผ่านมา วันนี้เลยได้โอกาสนำงานที่กำลังทำอยู่มาให้ชมกันครับ Krom Dragongaze เป็น Wolf Lord ของ Space Wolves Space Marine ครับ ผมเลือกที่จะนำงานชิ้นนี้มาทำต่อให้เสร็จหลังจากที่ได้เพนท์ในส่วนใบหน้าไปเรียบร้อยแล้ว ซึ่งตอนนั้นผมทำสีใบหน้างานชิ้นนี้ไปพร้อมๆกับงานฟิกเกอร์แนวประวัติศาสตร์ชิ้นอื่นๆ ที่เคยนำรูปมาลงไว้ก่อนหน้านี้ครับ
ส่วนงานชิ้นนี้ก็มีการมาทำสีเพิ่มเติมนิดหน่อย โดยทาเคลือบแบบเกลซในส่วนของเงาเข้มบนใบหน้าด้วยสีโทนเขียว เพื่อที่จะให้สีผิวของงานชิ้นนี้ดูแตกต่างออกไปบ้างครับ นอกจากนี้ก็ทำสีไล่แสงเงาส่วนของชุดเกราะด้วยสี The Fang ของ Citadel เป็นสีที่เค้ากำหนดไว้ให้เป็นสีของ Space Wolves ครับ หลังจากนี้ผมอาจจะมาเพิ่มไฮไลท์หรือรอยถลอกต่างๆบนเกราะอีกที แล้วจะนำความคืบหน้ามาลงอีกทีครับ :)
Krom's face was painted in the same time while I was painting faces for other historical projects, I just glazed over the shadow area with some green in order to make it look a bit different than others. I also finished the colour on the armour with The Fang from Citadel, maybe I will add more highlight and scratches on the armour later. This is just an early stage of this project, still have a lot of work to do. I'll post an update soon. :)
สวัสดีครับทุกๆท่าน ขออภัยที่ไม่ได้ลงความคืบหน้าใดๆในบล็อกเลยในช่วงที่ผ่านมา วันนี้เลยได้โอกาสนำงานที่กำลังทำอยู่มาให้ชมกันครับ Krom Dragongaze เป็น Wolf Lord ของ Space Wolves Space Marine ครับ ผมเลือกที่จะนำงานชิ้นนี้มาทำต่อให้เสร็จหลังจากที่ได้เพนท์ในส่วนใบหน้าไปเรียบร้อยแล้ว ซึ่งตอนนั้นผมทำสีใบหน้างานชิ้นนี้ไปพร้อมๆกับงานฟิกเกอร์แนวประวัติศาสตร์ชิ้นอื่นๆ ที่เคยนำรูปมาลงไว้ก่อนหน้านี้ครับ
ส่วนงานชิ้นนี้ก็มีการมาทำสีเพิ่มเติมนิดหน่อย โดยทาเคลือบแบบเกลซในส่วนของเงาเข้มบนใบหน้าด้วยสีโทนเขียว เพื่อที่จะให้สีผิวของงานชิ้นนี้ดูแตกต่างออกไปบ้างครับ นอกจากนี้ก็ทำสีไล่แสงเงาส่วนของชุดเกราะด้วยสี The Fang ของ Citadel เป็นสีที่เค้ากำหนดไว้ให้เป็นสีของ Space Wolves ครับ หลังจากนี้ผมอาจจะมาเพิ่มไฮไลท์หรือรอยถลอกต่างๆบนเกราะอีกที แล้วจะนำความคืบหน้ามาลงอีกทีครับ :)