Here are some pics of my current project, Ultramarines Veteran Sergeant for SMOD no.03. I used Citadel Macragge Blue as base color for the armor, mixed with black and Vallejo Intense Blue for shadows and off white for highlight. Also, I posted the pics of this mini on the plinth before painted below. More progress will be posted soon :)
ผลงานล่าสุดที่กำลังทำอยู่ตอนนี้ครับ Ultramarines Veteran Sergeant สำหรับโครงการ SMOD no.03 สำหรับมารีนตัวนี้ ผมใช้สี Citadel Macragge Blue เป็นสีพื้นในส่วนของเกราะครับ และนำสีนี้ไปผสมกับสีดำและสี Vallejo Intense Blue เพื่อให้สีเข้มขึ้นและใช้ในการไล่สีส่วนของเงา และผสมสีพื้นกับสีขาวเพื่อให้สีอ่อนลงและใช้ในการไล่สีส่วนของไฮไลท์ครับ ส่วนภาพของตัวมารีนก่อนที่จะทำสีและฐานวางผมลงรูปเอาไว้ด้านล่างครับ ขั้นตอนเพิ่มเติมจะนำมาลงเร็วๆนี้ครับ :)
By the way, be careful when drop the paint on palette, I lost half of the bottle because I did not notice the dropper device is stuck in the bottle cap. T_T
มีข้อควรระวังมาฝากกันนิดนึงสำหรับท่านที่ใช้สี Vallejo นะครับ เวลาเปิดฝาเพื่อที่จะหยดสีลงบนจานสี ลองสังเกตุดูนิดนึงว่าจุกของขวดยังติดดีอยู่รึเปล่า มิเช่นนั้นอาจจะเป็นแบบผมได้ เสียสีไปเกือบครึ่งขวดเพราะไม่ทันสังเกตุว่าจุกขวดมันหลุดไปติดอยู่ด้านในของฝา T_T
Pages
▼
Tuesday, May 27, 2014
Wednesday, May 14, 2014
Step by Step - Making ruined marble temple on plinth Part 2
- Painting
I started by searching through the internet to find any reference pictures of brown marble that I planned to do, in order to learn about the pattern and color of marble. This is one of the important things to do before start painting anything, in my opinion. However, mostly of the brown marble pics that I found was difficult to paint because it has many details in it or does not match with my needs (in color & pattern). Until I have found a suitable light brown marble pic from art-faux.com. I was really surprised when I know it's a painted marble, not a real thing. It's call "Faux painting" (definition from Wikipedia) that used for decorative in 1:1 scale. They described about this technique and how they painted in their website and their finished pieces was really amazing (you can find it HERE)
การทำฉากวิหารหินอ่อนที่โดนทำลายบนฐานขนาดเล็ก ตอนที่ 2
ในส่วนของการทำสี ผมเริ่มจากการเซิจหาภาพอ้างอิงของหินอ่อนสีน้ำตาลแบบที่ผมต้องการจะมำครับ เพื่อที่จะได้ศึกษาถึงเรื่องของรูปแบบลวดลาย และสีของหินอ่อน นี่เป็นขั้นตอนที่สำคัญในการทำงานสำหรับผม ก่อนที่จะเริ่มลงมือทำสีครับ ซึ่งรูปส่วนใหญ่ที่หาได้นั้น จะมีรายละเอียดบนหินอ่อนที่ดูซับซ้อนและค่อนข้างยากในการใช้เป็นแบบสำหรับทำสีครับ ผมต้องการแบบของหินอ่อนที่ดูไม่ซับซ้อน จนได้ไปเจอภาพจากทางเวปไซต์ art-faux.com ที่ดูลงตัวกับสิ่งที่อยากจะทำ แถมยังต้องประหลาดใจเมื่อรู้ว่าภาพที่เห็นเป็นการทำสีขึ้นมาเพื่อเลียนแบบของจริงด้วย เลยยิ่งเหมาะสมเข้าไปใหญ่ การทำสีแบบนี้เรียกว่า Faux painting เป็นเทคนิคในการทำสีเพื่อเลียนแบบลักษณะของวัสดุจริง อย่างเช่น หินอ่อน ไม้ หรือ หิน และใช้สำหรับการตกแต่งอาคารครับ (ลองเข้าไปดูความหมายเพิ่มเติมได้ใน Wikipedia ครับ) นอกจากนี้ในเวปไซต์นี้เค้าได้อธิบายเกี่ยวกับวิธีในการทำงานแบบคร่าวๆไว้ด้วย และภาพของผลงานที่ทำเสร็จแล้วก็ดูเหมือนกับหินอ่อนจริงๆและน่าทึ่งมากครับ ลองเข้าไปดูได้ที่นี่ครับ HERE
I opted this picture as a reference for my project because it doesn't have too much details and will be easy to paint rather than using a very detailed reference picture. Then I start mixing the color and trying to mix it as close to the reference, and here are the list of the colors for this method. (from Vallejo Model Color)
ส่วนนี่เป็นภาพต้นแบบที่ผมนำมาใช้ครับ เนื่องจากมีรายละเอียดไม่เยอะเกินไป ทำให้ง่ายต่อการทำสีมากกว่าแบบที่มีรายละเอียดเยอะๆครับ จากนั้นผมเริ่มผสมสีไว้สำหรับการทำสีหินอ่อน และพยายามผสมให้สีนั้นดูใกล้เคียงกับภาพต้นแบบ และนี่คือรายชื่อของสีที่ใช้ครับ ทั้งหมดเป็นสีของ Vallejo Model Color
1. Base color - 70918 Ivory + little amount of A & B
2. Light Marble - Base color + Ivory
3. Veining color - Base color + B
A. 70822 German Cam. Black Brown
B. 70871 Leather Brown
C. Black
After primed the base with black. I start painting with base color (1) onto the pillar and the floor plate. Note, I painted on the side edges in order to simulate it as thin marble plates on top of the soil.
หลังจากพ่นรองพื้นบนฐานด้วยสีดำ ผมเริ่มลงสีพื้นของหินอ่อนก่อนในบริเวณเสาและแผ่นหินบนพื้น ด้วยสี Base color (1) ครับ ลองสังเกตุดู ผมทาให้สีนั้นเกินลงไปในขอบด้านข้างของพื้นด้วยครับ เพื่อจำลองลักษณะความหนาของแผ่นหินอ่อนที่ติดอยู่บนพื้นดิน
Then I paint on the soil and debris under the floor with various grey shade, yellow ochre and brown (sorry for did not take a picture during this step)
จากนั้นทำสีในส่วนของพื้นดินและเศษซากปรักๆต่างๆที่องทับถมอยู่ใต้แผ่นหิน ด้วยโทนสีเทา, สีน้ำตาล และสีเหลือง yellow ochre (ขั้นตอนนี้ไม่ได้ถ่ายภาพระหว่างการทำเอาไว้ ต้องขออภัยด้วยครับ)
Next step I draw the veining on the pillar and the floor with Veining color (3). This step I'm not focus on the precise lines, just drawing a quick sketch to see the overall apperance of the veining. As you can see, most of the veining lines are connected and make it looks like different shape of grids on the surface.
ขั้นต่อมา ผมเริ่มวาดส่วนของลายบนหินอ่อน ที่เหมือนกับเส้นเลือดฝอยนั่นล่ะครับ โดยใช้สี Veining color (3) ในขั้นตอนนี้จะไม่ได้เน้นที่ความคมชัดของเส้นครับ เป็นเพียงการร่างแบบคร่าวๆ เพื่อที่จะดูลักษณะภาพรวมของลายครับ ซึ่งเมื่อร่างเสร็จแล้วจะเห็นว่าแต่ละเส้นนั้นจะเชื่อมต่อกันเกือบทั้งหมด และทำให้ดูเหมือนบนพื้นผิวนั้นมีตารางที่มีรูปทรงแตกต่างกัน แบ่งออกเป็นช่องๆเชื่อมต่อกันอยู่
I add more color on the marble with Veining color(3) mix with Leather Brown and dilute with water, then shading and blending inside corner of some grids, and make it has smooth transition between the base color and brown.
ผมเพิ่มสีของหินอ่อนเพิ่มเติม ด้วยสี Veining color(3) แต่ครั้งนี้ผสมกับ Leather Brown เพื่อให้สีนั้นเข้มขึ้นและเจือจางด้วยน้ำ เพื่อทำให้ทาเกลี่ยไล่สีได้ง่ายขึ้น จากนั้นทาลงในส่วนมุมด้านในของบางช่องที่แบ่งไว้บนหินอ่อน และพยายามเกลี่ยให้สีนั้นกลมกลืนไปกับสีพื้นครับ
Then add another color with Light Marble (2) and randomly shading and blending inside corner on some grids, in order to make the marble has various shades on the surface.
จากนั้นเพิ่มสีที่อ่อนกว่าสีพื้นลงไปในหินอ่อน ด้วยสี Light Marble (2) แล้วทาลงในส่วนมุมด้านในของบางช่องที่แบ่งไว้บนหินอ่อน และทาเกลี่ยและไล่สีให้กลมกลืนกับสีพื้นเช่นเดียวกัน เพื่อที่จะทำให้หินอ่อนนั้นดูมีสีที่หลากหลายทั้งกลางอ่อนเข้มครับ
For painting the veining, it is important to use a fine point brush for this method in order to make the line as small as possible. I use Veining color (3) and draw it on the same position from the previous step (veining sketch) but this time, drawing the line with precision and make it has more veining details than the sketch, and also try to draw it as the tremulous lines as seen in the reference.
สำหรับขั้นตอนนี้จะเป็นการทาเก็บรายละเอียดของลายบนหินอ่อนครับ ซึ่งถ้าหาพู่กันที่คุณภาพดีๆ ปลายเรียวและเล็ก ก็จะช่วยทำให้การวาดเส้นที่มีขนาดเล็กๆนั้นทำได้ง่ายขึ้น และจะช่วยทำให้หินอ่อนนั้นดูสมจริงมากขึ้นครับ ผมใช้สี Veining color (3) มาวาดซ้ำลงบนลายที่ได้ร่างเอาไว้ก่อนหน้านี้ แต่ในครั้งนี้จะทำให้เส้นนั้นคมชัดและเพิ่มรายละเอียดของเส้นให้มากกว่าเส้นร่างเดิม รวมถึงทำให้เส้นนั้นดูสั่นๆเหมือนกับที่เห็นจากภาพอ้างอิงครับ
After finished painting marble, I make the dust on the ruined around the pillar base and other areas by mixing it from Yellow Ochre + Ivory + Dark Brown and little amount of Grey. Then paint on the base and blending it with water.
หลังจากที่เสร็จสิ้นในส่วนของการทำสีหินอ่อน ผมทำสีคราบดินฝุ่นต่างๆที่อยู่รอบซากปรักหักพังตรงโคนเสาและตามพื้น โดยการผสมสี Yellow Ochre + Ivory + Dark Brown และเทาอีกนิดหน่อย แล้วนำไปทาลงบนฐานและใช้น้ำช่วยในการเกลี่ยสีครับ
I also make a mud-splattered on the ruined and pillar, by using an old paint brush dip on diluted paint and flicking on the toothpick to create this paint effect. (it's good to try it on the paper first :)
นอกจากนี้ผมยังทำคราบฝุ่นดินที่กระเด็นติดอยู่ตามซากปรักหักพังและโคนเสา โดยการใช้พู่กันเก่าๆจุ่มสีแล้วนำไปปัดบนไม้จิ้มฟัน สีจะกระเด็นเป็นเม็ดเล็กไปติดอยู่บนพื้นครับ ทางที่ดีควรจะลองเทคนิคนี้บนกระดาษดูก่อน จะได้เห็นลักษณะและทิศทางของสีว่าเป็นอย่างไร ก่อนที่จะลองทำบนชิ้นงานจริงครับ
Last step, I paint on the edges of the pillar's broken pieces, on the pillar fracture and on the edges of the floor plate, with Ivory mixed with Off White and using fine point brush. In order to simulate the apperance of marble when it broken or damage and it will have light-colored or white on the fracture.
ขั้นตอนสุดท้าย ผมแต้มสีบริเวณขอบของรอยแตกหักต่างๆ ทั้งเศษของเสาหินอ่อนบนพื้น รอยแตกหักด้านบนเสา รวมไปถึงของของแผ่นพื้นหินอ่อน ด้วยสี Ivory ผสมกับ Off White เพื่อจำลองลักษณะของหินอ่อนเวลาที่แตกหรือหัก ซึ่งจะมีสีที่ตรงส่วนที่เสียหายอ่อนกว่าสีพื้น
Here are the finished pics, and you can see the finished plinth with Emperor's Champion HERE.
และนี่คือภาพของฐานที่ทำเสร็จแล้วครับ และสามารถดููภาพของงานที่เสร็จแล้วพร้อมกับ Emperor's Champion ได้ที่นี่ครับ [Click Here]
I'm happy with the result of my first time painting marble, but I still need to practice and improve it for the better result. If you have any questions about the tutorials, feel free to ask me here or on my Face book page Thor-Studio
Happy Painting to all of you :)
ผมรู้สึกพอใจกับการลองทำสีหินอ่อนเป็นครั้งแรกครับ แต่ก็คิดว่าคงจะต้องฝึกฝนและลองทำดูอีกเพื่อให้ได้ผลลัพท์ที่ดีขึ้น เพราะก็ยังมีข้อผิดพลาดอยู่บ้าง เอาไว้ครั้งหน้าจะแก้ตัวใหม่ หวังว่าคงจะเป็นประโยชน์นะครับ ถ้ามีอะไรสงสัยก็ถามมาได้ครับ หรือเข้าไปคุยกันที่เฟซบุ๊คก็ได้ครับ Thor-Studio แล้วพบกันใหม่ครับ
I started by searching through the internet to find any reference pictures of brown marble that I planned to do, in order to learn about the pattern and color of marble. This is one of the important things to do before start painting anything, in my opinion. However, mostly of the brown marble pics that I found was difficult to paint because it has many details in it or does not match with my needs (in color & pattern). Until I have found a suitable light brown marble pic from art-faux.com. I was really surprised when I know it's a painted marble, not a real thing. It's call "Faux painting" (definition from Wikipedia) that used for decorative in 1:1 scale. They described about this technique and how they painted in their website and their finished pieces was really amazing (you can find it HERE)
การทำฉากวิหารหินอ่อนที่โดนทำลายบนฐานขนาดเล็ก ตอนที่ 2
ในส่วนของการทำสี ผมเริ่มจากการเซิจหาภาพอ้างอิงของหินอ่อนสีน้ำตาลแบบที่ผมต้องการจะมำครับ เพื่อที่จะได้ศึกษาถึงเรื่องของรูปแบบลวดลาย และสีของหินอ่อน นี่เป็นขั้นตอนที่สำคัญในการทำงานสำหรับผม ก่อนที่จะเริ่มลงมือทำสีครับ ซึ่งรูปส่วนใหญ่ที่หาได้นั้น จะมีรายละเอียดบนหินอ่อนที่ดูซับซ้อนและค่อนข้างยากในการใช้เป็นแบบสำหรับทำสีครับ ผมต้องการแบบของหินอ่อนที่ดูไม่ซับซ้อน จนได้ไปเจอภาพจากทางเวปไซต์ art-faux.com ที่ดูลงตัวกับสิ่งที่อยากจะทำ แถมยังต้องประหลาดใจเมื่อรู้ว่าภาพที่เห็นเป็นการทำสีขึ้นมาเพื่อเลียนแบบของจริงด้วย เลยยิ่งเหมาะสมเข้าไปใหญ่ การทำสีแบบนี้เรียกว่า Faux painting เป็นเทคนิคในการทำสีเพื่อเลียนแบบลักษณะของวัสดุจริง อย่างเช่น หินอ่อน ไม้ หรือ หิน และใช้สำหรับการตกแต่งอาคารครับ (ลองเข้าไปดูความหมายเพิ่มเติมได้ใน Wikipedia ครับ) นอกจากนี้ในเวปไซต์นี้เค้าได้อธิบายเกี่ยวกับวิธีในการทำงานแบบคร่าวๆไว้ด้วย และภาพของผลงานที่ทำเสร็จแล้วก็ดูเหมือนกับหินอ่อนจริงๆและน่าทึ่งมากครับ ลองเข้าไปดูได้ที่นี่ครับ HERE
courtesy of http://art-faux.com/ |
ส่วนนี่เป็นภาพต้นแบบที่ผมนำมาใช้ครับ เนื่องจากมีรายละเอียดไม่เยอะเกินไป ทำให้ง่ายต่อการทำสีมากกว่าแบบที่มีรายละเอียดเยอะๆครับ จากนั้นผมเริ่มผสมสีไว้สำหรับการทำสีหินอ่อน และพยายามผสมให้สีนั้นดูใกล้เคียงกับภาพต้นแบบ และนี่คือรายชื่อของสีที่ใช้ครับ ทั้งหมดเป็นสีของ Vallejo Model Color
1. Base color - 70918 Ivory + little amount of A & B
2. Light Marble - Base color + Ivory
3. Veining color - Base color + B
A. 70822 German Cam. Black Brown
B. 70871 Leather Brown
C. Black
After primed the base with black. I start painting with base color (1) onto the pillar and the floor plate. Note, I painted on the side edges in order to simulate it as thin marble plates on top of the soil.
หลังจากพ่นรองพื้นบนฐานด้วยสีดำ ผมเริ่มลงสีพื้นของหินอ่อนก่อนในบริเวณเสาและแผ่นหินบนพื้น ด้วยสี Base color (1) ครับ ลองสังเกตุดู ผมทาให้สีนั้นเกินลงไปในขอบด้านข้างของพื้นด้วยครับ เพื่อจำลองลักษณะความหนาของแผ่นหินอ่อนที่ติดอยู่บนพื้นดิน
จากนั้นทำสีในส่วนของพื้นดินและเศษซากปรักๆต่างๆที่องทับถมอยู่ใต้แผ่นหิน ด้วยโทนสีเทา, สีน้ำตาล และสีเหลือง yellow ochre (ขั้นตอนนี้ไม่ได้ถ่ายภาพระหว่างการทำเอาไว้ ต้องขออภัยด้วยครับ)
Next step I draw the veining on the pillar and the floor with Veining color (3). This step I'm not focus on the precise lines, just drawing a quick sketch to see the overall apperance of the veining. As you can see, most of the veining lines are connected and make it looks like different shape of grids on the surface.
ขั้นต่อมา ผมเริ่มวาดส่วนของลายบนหินอ่อน ที่เหมือนกับเส้นเลือดฝอยนั่นล่ะครับ โดยใช้สี Veining color (3) ในขั้นตอนนี้จะไม่ได้เน้นที่ความคมชัดของเส้นครับ เป็นเพียงการร่างแบบคร่าวๆ เพื่อที่จะดูลักษณะภาพรวมของลายครับ ซึ่งเมื่อร่างเสร็จแล้วจะเห็นว่าแต่ละเส้นนั้นจะเชื่อมต่อกันเกือบทั้งหมด และทำให้ดูเหมือนบนพื้นผิวนั้นมีตารางที่มีรูปทรงแตกต่างกัน แบ่งออกเป็นช่องๆเชื่อมต่อกันอยู่
I add more color on the marble with Veining color(3) mix with Leather Brown and dilute with water, then shading and blending inside corner of some grids, and make it has smooth transition between the base color and brown.
ผมเพิ่มสีของหินอ่อนเพิ่มเติม ด้วยสี Veining color(3) แต่ครั้งนี้ผสมกับ Leather Brown เพื่อให้สีนั้นเข้มขึ้นและเจือจางด้วยน้ำ เพื่อทำให้ทาเกลี่ยไล่สีได้ง่ายขึ้น จากนั้นทาลงในส่วนมุมด้านในของบางช่องที่แบ่งไว้บนหินอ่อน และพยายามเกลี่ยให้สีนั้นกลมกลืนไปกับสีพื้นครับ
Then add another color with Light Marble (2) and randomly shading and blending inside corner on some grids, in order to make the marble has various shades on the surface.
จากนั้นเพิ่มสีที่อ่อนกว่าสีพื้นลงไปในหินอ่อน ด้วยสี Light Marble (2) แล้วทาลงในส่วนมุมด้านในของบางช่องที่แบ่งไว้บนหินอ่อน และทาเกลี่ยและไล่สีให้กลมกลืนกับสีพื้นเช่นเดียวกัน เพื่อที่จะทำให้หินอ่อนนั้นดูมีสีที่หลากหลายทั้งกลางอ่อนเข้มครับ
For painting the veining, it is important to use a fine point brush for this method in order to make the line as small as possible. I use Veining color (3) and draw it on the same position from the previous step (veining sketch) but this time, drawing the line with precision and make it has more veining details than the sketch, and also try to draw it as the tremulous lines as seen in the reference.
สำหรับขั้นตอนนี้จะเป็นการทาเก็บรายละเอียดของลายบนหินอ่อนครับ ซึ่งถ้าหาพู่กันที่คุณภาพดีๆ ปลายเรียวและเล็ก ก็จะช่วยทำให้การวาดเส้นที่มีขนาดเล็กๆนั้นทำได้ง่ายขึ้น และจะช่วยทำให้หินอ่อนนั้นดูสมจริงมากขึ้นครับ ผมใช้สี Veining color (3) มาวาดซ้ำลงบนลายที่ได้ร่างเอาไว้ก่อนหน้านี้ แต่ในครั้งนี้จะทำให้เส้นนั้นคมชัดและเพิ่มรายละเอียดของเส้นให้มากกว่าเส้นร่างเดิม รวมถึงทำให้เส้นนั้นดูสั่นๆเหมือนกับที่เห็นจากภาพอ้างอิงครับ
After finished painting marble, I make the dust on the ruined around the pillar base and other areas by mixing it from Yellow Ochre + Ivory + Dark Brown and little amount of Grey. Then paint on the base and blending it with water.
หลังจากที่เสร็จสิ้นในส่วนของการทำสีหินอ่อน ผมทำสีคราบดินฝุ่นต่างๆที่อยู่รอบซากปรักหักพังตรงโคนเสาและตามพื้น โดยการผสมสี Yellow Ochre + Ivory + Dark Brown และเทาอีกนิดหน่อย แล้วนำไปทาลงบนฐานและใช้น้ำช่วยในการเกลี่ยสีครับ
I also make a mud-splattered on the ruined and pillar, by using an old paint brush dip on diluted paint and flicking on the toothpick to create this paint effect. (it's good to try it on the paper first :)
นอกจากนี้ผมยังทำคราบฝุ่นดินที่กระเด็นติดอยู่ตามซากปรักหักพังและโคนเสา โดยการใช้พู่กันเก่าๆจุ่มสีแล้วนำไปปัดบนไม้จิ้มฟัน สีจะกระเด็นเป็นเม็ดเล็กไปติดอยู่บนพื้นครับ ทางที่ดีควรจะลองเทคนิคนี้บนกระดาษดูก่อน จะได้เห็นลักษณะและทิศทางของสีว่าเป็นอย่างไร ก่อนที่จะลองทำบนชิ้นงานจริงครับ
Last step, I paint on the edges of the pillar's broken pieces, on the pillar fracture and on the edges of the floor plate, with Ivory mixed with Off White and using fine point brush. In order to simulate the apperance of marble when it broken or damage and it will have light-colored or white on the fracture.
ขั้นตอนสุดท้าย ผมแต้มสีบริเวณขอบของรอยแตกหักต่างๆ ทั้งเศษของเสาหินอ่อนบนพื้น รอยแตกหักด้านบนเสา รวมไปถึงของของแผ่นพื้นหินอ่อน ด้วยสี Ivory ผสมกับ Off White เพื่อจำลองลักษณะของหินอ่อนเวลาที่แตกหรือหัก ซึ่งจะมีสีที่ตรงส่วนที่เสียหายอ่อนกว่าสีพื้น
Here are the finished pics, and you can see the finished plinth with Emperor's Champion HERE.
และนี่คือภาพของฐานที่ทำเสร็จแล้วครับ และสามารถดููภาพของงานที่เสร็จแล้วพร้อมกับ Emperor's Champion ได้ที่นี่ครับ [Click Here]
I'm happy with the result of my first time painting marble, but I still need to practice and improve it for the better result. If you have any questions about the tutorials, feel free to ask me here or on my Face book page Thor-Studio
Happy Painting to all of you :)
ผมรู้สึกพอใจกับการลองทำสีหินอ่อนเป็นครั้งแรกครับ แต่ก็คิดว่าคงจะต้องฝึกฝนและลองทำดูอีกเพื่อให้ได้ผลลัพท์ที่ดีขึ้น เพราะก็ยังมีข้อผิดพลาดอยู่บ้าง เอาไว้ครั้งหน้าจะแก้ตัวใหม่ หวังว่าคงจะเป็นประโยชน์นะครับ ถ้ามีอะไรสงสัยก็ถามมาได้ครับ หรือเข้าไปคุยกันที่เฟซบุ๊คก็ได้ครับ Thor-Studio แล้วพบกันใหม่ครับ
Tuesday, May 6, 2014
Step by Step - Making ruined marble temple on plinth Part 1
- Building
This is a first part of making plinth for Black Templars The Emperor's Champion that I posted last week. In this project, I chose to make a plinth with the marble temple scene. Because in my opinion, The Emperor's Champion has an image of knight or warrior and it will be suited with the roman marble temple scene very well and I also want to try to paint marble that I never done before. Then, after I had the concept for my plinth, I started by casting plaster plates from plastic box and it will be used as the marble floor.
การทำฉากวิหารหินอ่อนที่โดนทำลายบนฐานขนาดเล็ก ตอนที่ 1
นี่เป็นส่วนแรกของวิธีการทำฐานวางของ Black Templars The Emperor's Champion ที่ผมโพสไปไม่นานนี้ครับ ในงานชิ้นนี้ ผมเลือกที่จะทำฐานที่มีลักษณะเป็นฉากของวิหารหินอ่อน เนื่องจากผมคิดว่ามินิตัวนี้มีภาพลักษณ์แบบอัศวินหรือนักรบในยุคโรมัน และดูแล้วน่าจะเหมาะกับฉากของวิหารหินอ่อนแบบโรมันครับ นอกจากนี้ยังอยากที่จะลองทำสีของหินอ่อนดูด้วยครับ ก็เลยเลือกที่จะลองทำดู
หลังจากที่ได้แนวคิดแล้ว ก็เริ่มด้วยการหล่อปูนพลาสเตอร์ออกมาเป็นแผ่น เตรียมไว้สำหรับทำส่วนของพื้นหินอ่อนครับ โดยใช้การหล่อแบบจากกล่องพลาสติกใส่ของ
After the plaster completely dried, I used a gaming base as a template to mark a socket position and draw it on the plaster with needle.
หลังจากที่ปูนแห้งแล้ว ผมใช้ฐานของตัวมินิที่เป็นฐานพลาสติกขนาดเล็กที่มีมาให้ นำมาใช้เป็นแบบในการวาดลายวงกลมลงบนปูนด้วยเข็ม เพื่อที่จะได้เจาะรูสำหรับไว้เป็นช่องเสียบของฐานเล็ก ให้ถอดเข้าถอดออกจากฐานใหญ่ได้ครับ
Then use hand drill to drill holes on the circle mark and make every holes close together as possible, then it will be easy when you cut the circle off with art knife.
จากนั้นใช้สว่านมือเจาะรูตามรอยที่ร่างเอาไว้ โดยพยายามเจาะให้แต่ละรูนั้นอยู่ชิดๆกันครับ เพื่อที่จะได้ใช้อาร์ตไนฟ์เฉือนตัดก้อนปูนออกมาได้ง่าย
After cut and glued the circle plate on gaming base, I sanded the side of both parts (circle plate and inside socket) with sandpaper no.800-1200 respectively, and try to make it has round shape as much as possible. Also, don't forget to test fit between gaming base and socket :)
หลังจากตัดชิ้นวงกลมออกมาแล้วและติดลงบนฐานพลาสติก แล้วจึงขัดตรงส่วนขอบด้านข้างของวงกลมที่ตัดมา และขอบด้านในของรูวงกลม ด้วยกระดาษทรายไล่จากเบอร์ 800-1200 ตามลำดับ และพยายามขัดให้ปูนนั้นได้ทรงกลมมากที่สุดครับ แล้วลองนำฐานวงกลมเล็กมาทดลองใส่ในช่องดูว่าพอดีกันหรือเปล่าครับ
I used flat nose pliers for breaking plaster plate by clamping and breaking it piece by piece until it has the desired shape. This method will be created rough texture on the fracture rather than cut by art knife or hand saw. Note, placement testing to see the proportion of the scene.
ผมใช้คีมปากแบนในการหักแผ่นปูนส่วนที่ไม่ต้องการออก โดยการหนีบและออกแรงบิดให้ปูนนั้นหักออกทีละชิ้น วิธีการนี้จะช่วยให้บริเวณที่เป็นรอยหักนั้นมีผิวที่ขรุขระ ดูเป็นธรรมชาติมากกว่าตัดด้วยอาร์ตไนฟ์หรือเลื่อยที่จะทำให้ผิวของรอยแตกนั้นเรียบครับ
After filled inside the plinth (toothpick box) with plaster (red arrow), I used DAS modelling clay (blue arrow) to make the groundwork and glued plaster plate on top of it. Then put the gaming base in the socket and press it on the clay inside, this clay will be fixed the position of gaming base when it dried. Leave it for several hours and when the clay has dried, it will not stick to the gaming base and you can pull out easily.
Also, in order to make both pieces has the same plain surface. I sanded both pieces at the same time with sandpaper. As you can see in the pics, I glued sandpaper on plywood to make it easy to use then I sanded the surface in circular direction in order to make it has less scratches on the surface.
หลังจากที่เทปูนให้เต็มด้านในของฐาน (ที่ทำจากกระปุกไม้จิ้มฟัน ตรงลูกศรสีแดง) ผมใช้ดินปั้น DAS มาทำส่วนของพื้นดิน (ลูกศรสีน้ำเงิน) ที่จะรองรับส่วนของแผ่นปูนพลาสเตอร์ด้านบน และนำแผ่นปูนมาติดกาวลงไป จากนั้นเอาฐานวงกลมมาใส่ในช่องและกดลงไปให้จมลงในดินที่อยู่ด้านล่าง ซึ่งจะช่วยกำหนดตำแหน่งการวางของฐานให้อยู่กับที่ เมื่อดินแห้งแล้วจะไม่ติดกับฐานพลาสติก และสามารถดึงฐานเล็กเข้าออกได้ครับ ส่วนการทำให้พื้นของฐานทั้งสองชิ้นนั้นเรียบเสมอกัน ผมใช้กระดาษทรายนำมาติดลงบนแผ่นไม้ เพื่อให้ออกแรงในการขัดได้ง่ายขึ้น แล้วขัดทั้งสองชิ้นไปพร้อมๆกันจนกว่าจะได้ระนาบครับ และใช้การขัดแบบวนเป็นวงกลมเพื่อที่จะให้เกิดรอยขีดข่วนบนผิวปูนให้น้อยที่สุดครับ
I used spare plaster plates that I cast at the beginning to decorate the rest of the marble floor. After broke it into small pieces, I choose pieces of plaster that looks suit with the fracture of the floor plate and glued with super glue (Cyanoacrylate) in different levels and overlap from the floor.
ผมใช้ส่วนของแผ่นปูนที่เหลือจากการหล่อในตอนแรก นำมาทุบเป็นชิ้นๆ แล้วมาติดเป็นส่วนที่เหลือของพื้นหินอ่อน โดนเลือกส่วนที่ขนาดไม่ใหญ่มากและรอยหักนั้นเข้ากันกับจุดที่จะติด แล้วติดด้วยกาวช้างให้แต่ละชิ้นนั้นดูเหลื่อมๆกัน เหมือนกับพื้นที่แตกออก
I made a marble pillar from Magic-Sculpt, by rolled with a metal box(flat surface). I rubbed on the metal box surface with vaseline first in order to prevent Magic-Sculpt to stick on the box. Then sculpted Magic-Sculpt in cylindrical shape and rolling with metal box on the flat surface (e.g. table top) until it has desired length and round shape.
Note, don't press down on the box too much during the rolling process, Otherwise you will get an oval pillar instead of round pillar. :)
ส่วนของเสาหินอ่อนทำจาก Magic-Sculpt (เป็นอีพอคซี่แบบนึงครับ) โดยการกลิ้งด้วยกล่องเหล็กที่มีผิวเรียบครับ ผมนำวาสลีนมาทาที่ผิวกล่องก่อน เพื่อกันไม่ให้ตัวอีพอคซี่นั้นมาติดที่กล่องเพราะมันมีความเหนียวพอสมควร จากนั้นปั้นอีพอคซี่ให้เป็นทรงกระบอก แล้วนำกล่องเหล็กมากดเบาๆบนอีพอคซี่ที่วางบนโต๊ะเรียบๆ จากนั้นเลื่อนกล่องเหล็กขึ้นลง อีพอคซี่จะหมุนกลิ้งอยู่ใต้กล่อง ให้เลื่อนกล่องไปเรื่อยๆจนอีพอคซี่นั้นกลิ้งจนขยายความยาวออกตามที่เราต้องการและได้รูปทรงที่กลมครับ ข้อควรระวังคืออย่าออกแรงกดบนกล่องมากเกินไป จะทำให้อีพอคซี่นั้นกลายเป็นทรงวงรีและจะได้เสาที่ไม่กลมครับ
Composition testing. Note, the fracture on top of the pillar made by side cutter
ทดลองจัดวางครับ ส่วนของรอยแตกหักบนเสานั้น ใช้การตัดด้วยคีมตัดพลาสติกครับ
In order to make the marble floor looks more attractive, I carved the plaster with art knife and made it look like cracked and separated floor into overlap and different levels.
จากนั้นทำให้พื้นหินอ่อนนั้นดูน่าสนใจมากขึ้น ด้วยการใช้มีดอาร์ตไนฟ์มาแกะและขูดที่พื้น ให้ดูเป็นรอยแตกและแยกออกจากกันจนเป็นพื้นที่ดูเหลื่อมๆกัน
I used smashed brick to create debris on the scene by mixing it with white glue and water, then paste it on top and around base of the pillar by using an old paint brush. Also, paste it around the under of the floor plate and between the crack and on some fracture, in order to make it looks like a massive debris under the floor plate.
ส่วนเศษซากต่างๆบนพื้น ผมใช้อิฐทุบละเอียดมาทำครับ โดยการผสมกับกาวลาเท็กซ์และน้ำ แล้วนำไปทาลงบริเวณด้านบนเสาและรอบๆโคนด้วยพู่กันเก่าๆครับ นอกจากนี้ก็ทาในบริเวณด้านใต้ของแผ่นพื้นและระหว่างรอยแยกและตรงรอยแตกต่างๆ เพื่อทำให้ดูเหมือนกับเป็นกองเศษหนเศษอิฐที่อยู่ข้างใต้พื้นครับ
Lastly, I used Tamiya putty diluted with Mr.Color Thinner (GSI ) and painted on the surface of the floor plate. This method will be filled every small holes on the plaster surface and make it easy to be sanded smooth, in order to create a smooth surface as marble look.
Here are the pictures of finished piece ready for painting :)
สุดท้ายผมใช้พุตตี้ของ Tamiya ผสมกับทินเนอร์กันเซ่ แล้วทาลงบนผิวหน้าของแผ่นปูน เพื่อเป็นการอุดร่องรอยต่างๆบนปูน และเมื่อพุตตี้แห้งแล้วจะขัดได้ง่ายครับ เพื่อให้ได้พื้นผิวที่เรียบเหมือนกับหินอ่อนครับ ส่วนด้านล่างเป็นภาพของฐานที่เสร็จแล้ว เตรียมพร้อมสำหรับทำสีครับ
This is a first part of making plinth for Black Templars The Emperor's Champion that I posted last week. In this project, I chose to make a plinth with the marble temple scene. Because in my opinion, The Emperor's Champion has an image of knight or warrior and it will be suited with the roman marble temple scene very well and I also want to try to paint marble that I never done before. Then, after I had the concept for my plinth, I started by casting plaster plates from plastic box and it will be used as the marble floor.
การทำฉากวิหารหินอ่อนที่โดนทำลายบนฐานขนาดเล็ก ตอนที่ 1
นี่เป็นส่วนแรกของวิธีการทำฐานวางของ Black Templars The Emperor's Champion ที่ผมโพสไปไม่นานนี้ครับ ในงานชิ้นนี้ ผมเลือกที่จะทำฐานที่มีลักษณะเป็นฉากของวิหารหินอ่อน เนื่องจากผมคิดว่ามินิตัวนี้มีภาพลักษณ์แบบอัศวินหรือนักรบในยุคโรมัน และดูแล้วน่าจะเหมาะกับฉากของวิหารหินอ่อนแบบโรมันครับ นอกจากนี้ยังอยากที่จะลองทำสีของหินอ่อนดูด้วยครับ ก็เลยเลือกที่จะลองทำดู
หลังจากที่ได้แนวคิดแล้ว ก็เริ่มด้วยการหล่อปูนพลาสเตอร์ออกมาเป็นแผ่น เตรียมไว้สำหรับทำส่วนของพื้นหินอ่อนครับ โดยใช้การหล่อแบบจากกล่องพลาสติกใส่ของ
After the plaster completely dried, I used a gaming base as a template to mark a socket position and draw it on the plaster with needle.
หลังจากที่ปูนแห้งแล้ว ผมใช้ฐานของตัวมินิที่เป็นฐานพลาสติกขนาดเล็กที่มีมาให้ นำมาใช้เป็นแบบในการวาดลายวงกลมลงบนปูนด้วยเข็ม เพื่อที่จะได้เจาะรูสำหรับไว้เป็นช่องเสียบของฐานเล็ก ให้ถอดเข้าถอดออกจากฐานใหญ่ได้ครับ
Then use hand drill to drill holes on the circle mark and make every holes close together as possible, then it will be easy when you cut the circle off with art knife.
จากนั้นใช้สว่านมือเจาะรูตามรอยที่ร่างเอาไว้ โดยพยายามเจาะให้แต่ละรูนั้นอยู่ชิดๆกันครับ เพื่อที่จะได้ใช้อาร์ตไนฟ์เฉือนตัดก้อนปูนออกมาได้ง่าย
After cut and glued the circle plate on gaming base, I sanded the side of both parts (circle plate and inside socket) with sandpaper no.800-1200 respectively, and try to make it has round shape as much as possible. Also, don't forget to test fit between gaming base and socket :)
หลังจากตัดชิ้นวงกลมออกมาแล้วและติดลงบนฐานพลาสติก แล้วจึงขัดตรงส่วนขอบด้านข้างของวงกลมที่ตัดมา และขอบด้านในของรูวงกลม ด้วยกระดาษทรายไล่จากเบอร์ 800-1200 ตามลำดับ และพยายามขัดให้ปูนนั้นได้ทรงกลมมากที่สุดครับ แล้วลองนำฐานวงกลมเล็กมาทดลองใส่ในช่องดูว่าพอดีกันหรือเปล่าครับ
I used flat nose pliers for breaking plaster plate by clamping and breaking it piece by piece until it has the desired shape. This method will be created rough texture on the fracture rather than cut by art knife or hand saw. Note, placement testing to see the proportion of the scene.
ผมใช้คีมปากแบนในการหักแผ่นปูนส่วนที่ไม่ต้องการออก โดยการหนีบและออกแรงบิดให้ปูนนั้นหักออกทีละชิ้น วิธีการนี้จะช่วยให้บริเวณที่เป็นรอยหักนั้นมีผิวที่ขรุขระ ดูเป็นธรรมชาติมากกว่าตัดด้วยอาร์ตไนฟ์หรือเลื่อยที่จะทำให้ผิวของรอยแตกนั้นเรียบครับ
After filled inside the plinth (toothpick box) with plaster (red arrow), I used DAS modelling clay (blue arrow) to make the groundwork and glued plaster plate on top of it. Then put the gaming base in the socket and press it on the clay inside, this clay will be fixed the position of gaming base when it dried. Leave it for several hours and when the clay has dried, it will not stick to the gaming base and you can pull out easily.
Also, in order to make both pieces has the same plain surface. I sanded both pieces at the same time with sandpaper. As you can see in the pics, I glued sandpaper on plywood to make it easy to use then I sanded the surface in circular direction in order to make it has less scratches on the surface.
หลังจากที่เทปูนให้เต็มด้านในของฐาน (ที่ทำจากกระปุกไม้จิ้มฟัน ตรงลูกศรสีแดง) ผมใช้ดินปั้น DAS มาทำส่วนของพื้นดิน (ลูกศรสีน้ำเงิน) ที่จะรองรับส่วนของแผ่นปูนพลาสเตอร์ด้านบน และนำแผ่นปูนมาติดกาวลงไป จากนั้นเอาฐานวงกลมมาใส่ในช่องและกดลงไปให้จมลงในดินที่อยู่ด้านล่าง ซึ่งจะช่วยกำหนดตำแหน่งการวางของฐานให้อยู่กับที่ เมื่อดินแห้งแล้วจะไม่ติดกับฐานพลาสติก และสามารถดึงฐานเล็กเข้าออกได้ครับ ส่วนการทำให้พื้นของฐานทั้งสองชิ้นนั้นเรียบเสมอกัน ผมใช้กระดาษทรายนำมาติดลงบนแผ่นไม้ เพื่อให้ออกแรงในการขัดได้ง่ายขึ้น แล้วขัดทั้งสองชิ้นไปพร้อมๆกันจนกว่าจะได้ระนาบครับ และใช้การขัดแบบวนเป็นวงกลมเพื่อที่จะให้เกิดรอยขีดข่วนบนผิวปูนให้น้อยที่สุดครับ
I used spare plaster plates that I cast at the beginning to decorate the rest of the marble floor. After broke it into small pieces, I choose pieces of plaster that looks suit with the fracture of the floor plate and glued with super glue (Cyanoacrylate) in different levels and overlap from the floor.
ผมใช้ส่วนของแผ่นปูนที่เหลือจากการหล่อในตอนแรก นำมาทุบเป็นชิ้นๆ แล้วมาติดเป็นส่วนที่เหลือของพื้นหินอ่อน โดนเลือกส่วนที่ขนาดไม่ใหญ่มากและรอยหักนั้นเข้ากันกับจุดที่จะติด แล้วติดด้วยกาวช้างให้แต่ละชิ้นนั้นดูเหลื่อมๆกัน เหมือนกับพื้นที่แตกออก
I made a marble pillar from Magic-Sculpt, by rolled with a metal box(flat surface). I rubbed on the metal box surface with vaseline first in order to prevent Magic-Sculpt to stick on the box. Then sculpted Magic-Sculpt in cylindrical shape and rolling with metal box on the flat surface (e.g. table top) until it has desired length and round shape.
Note, don't press down on the box too much during the rolling process, Otherwise you will get an oval pillar instead of round pillar. :)
ส่วนของเสาหินอ่อนทำจาก Magic-Sculpt (เป็นอีพอคซี่แบบนึงครับ) โดยการกลิ้งด้วยกล่องเหล็กที่มีผิวเรียบครับ ผมนำวาสลีนมาทาที่ผิวกล่องก่อน เพื่อกันไม่ให้ตัวอีพอคซี่นั้นมาติดที่กล่องเพราะมันมีความเหนียวพอสมควร จากนั้นปั้นอีพอคซี่ให้เป็นทรงกระบอก แล้วนำกล่องเหล็กมากดเบาๆบนอีพอคซี่ที่วางบนโต๊ะเรียบๆ จากนั้นเลื่อนกล่องเหล็กขึ้นลง อีพอคซี่จะหมุนกลิ้งอยู่ใต้กล่อง ให้เลื่อนกล่องไปเรื่อยๆจนอีพอคซี่นั้นกลิ้งจนขยายความยาวออกตามที่เราต้องการและได้รูปทรงที่กลมครับ ข้อควรระวังคืออย่าออกแรงกดบนกล่องมากเกินไป จะทำให้อีพอคซี่นั้นกลายเป็นทรงวงรีและจะได้เสาที่ไม่กลมครับ
Composition testing. Note, the fracture on top of the pillar made by side cutter
ทดลองจัดวางครับ ส่วนของรอยแตกหักบนเสานั้น ใช้การตัดด้วยคีมตัดพลาสติกครับ
In order to make the marble floor looks more attractive, I carved the plaster with art knife and made it look like cracked and separated floor into overlap and different levels.
จากนั้นทำให้พื้นหินอ่อนนั้นดูน่าสนใจมากขึ้น ด้วยการใช้มีดอาร์ตไนฟ์มาแกะและขูดที่พื้น ให้ดูเป็นรอยแตกและแยกออกจากกันจนเป็นพื้นที่ดูเหลื่อมๆกัน
I used smashed brick to create debris on the scene by mixing it with white glue and water, then paste it on top and around base of the pillar by using an old paint brush. Also, paste it around the under of the floor plate and between the crack and on some fracture, in order to make it looks like a massive debris under the floor plate.
ส่วนเศษซากต่างๆบนพื้น ผมใช้อิฐทุบละเอียดมาทำครับ โดยการผสมกับกาวลาเท็กซ์และน้ำ แล้วนำไปทาลงบริเวณด้านบนเสาและรอบๆโคนด้วยพู่กันเก่าๆครับ นอกจากนี้ก็ทาในบริเวณด้านใต้ของแผ่นพื้นและระหว่างรอยแยกและตรงรอยแตกต่างๆ เพื่อทำให้ดูเหมือนกับเป็นกองเศษหนเศษอิฐที่อยู่ข้างใต้พื้นครับ
Lastly, I used Tamiya putty diluted with Mr.Color Thinner (GSI ) and painted on the surface of the floor plate. This method will be filled every small holes on the plaster surface and make it easy to be sanded smooth, in order to create a smooth surface as marble look.
Here are the pictures of finished piece ready for painting :)
สุดท้ายผมใช้พุตตี้ของ Tamiya ผสมกับทินเนอร์กันเซ่ แล้วทาลงบนผิวหน้าของแผ่นปูน เพื่อเป็นการอุดร่องรอยต่างๆบนปูน และเมื่อพุตตี้แห้งแล้วจะขัดได้ง่ายครับ เพื่อให้ได้พื้นผิวที่เรียบเหมือนกับหินอ่อนครับ ส่วนด้านล่างเป็นภาพของฐานที่เสร็จแล้ว เตรียมพร้อมสำหรับทำสีครับ
Thursday, May 1, 2014
Making plinth from Toothpick box
การทำฐานจากกระปุกไม้จิ้มฟัน
I had this idea after I saw a toothpick box in 7-11 when I was in Thailand around a year ago. At that time, I was looking for something I can applied to be a plinth for my projects because it was hard to find plinths in Thailand (and too expensive to order from another country). Then I've found these toothpick boxes in 7-11. It has two types of box and the cost per one box just only 0.50 US Dollar, and the size was perfect for the minis. So, I bought several of both types and then were applied it as a plinth for my projects such as Justicar Jedidiah, Judgement and Dark Angels Company Master.
ผมได้ไอเดียนี้หลังจากที่เจอกล่องไม้จิ้มฟันใน 7-11 แถวบ้าน เมื่อประมาณปีที่แล้ว ในตอนนั้นกำลังต้องการฐานเล็กๆสำหรับวางงานประเภทมินิเอเจอร์อยู่ แต่ที่ไทยมันหาซื้อได้ยากหรือถ้าจะสั่งมาก็มีราคาแพงมากครับ จนไปเจอกระปุกใส่ไม้จิ้มฟันในเซเว่นที่ทำจากพลาสติก มีอยู่ 2 แบบครับ ขนาดกำลังเหมาะและราคาไม่แพง กระปุกละประมาณ 10-15 บาท ก็เลยซื้อกลับมาลองทำเป็นฐานสำหรับโมเดลดู ปรากฎว่ามันเหมาะมาก ก็เลยได้ใช้กับงานที่ผ่านมาบางชิ้นเช่น Justicar Jedidiah, Judgement และ Dark Angels Company Master ครับ
The toothpick box on the right was used only the cap and applied it as a lower plinth for Justicar Jedidiah and Judgement. The plinth on the left was applied from another toothpick box and was also the first plinth for Orc Flagger.
กระปุกทางด้านขวาสุด จะใช้เฉพาะส่วนฝาครอบด้านบนที่นำมาทำเป็นฐานครับ จะมีความสูงไม่มากเท่าไหร่ เคยใช้ในงาน Justicar Jedidiah กับ Judgement ครับ ส่วนฐานด้านซ้ายมือทำจากกระปุกทรงสูงฝาครอบสีชมพูครับ ชิ้นนี้เป็นฐานแบบแรกที่ทำไว้สำหรับตัว Orc Flagger ที่โชว์อยู่ด้วยครับ
I had this idea after I saw a toothpick box in 7-11 when I was in Thailand around a year ago. At that time, I was looking for something I can applied to be a plinth for my projects because it was hard to find plinths in Thailand (and too expensive to order from another country). Then I've found these toothpick boxes in 7-11. It has two types of box and the cost per one box just only 0.50 US Dollar, and the size was perfect for the minis. So, I bought several of both types and then were applied it as a plinth for my projects such as Justicar Jedidiah, Judgement and Dark Angels Company Master.
ผมได้ไอเดียนี้หลังจากที่เจอกล่องไม้จิ้มฟันใน 7-11 แถวบ้าน เมื่อประมาณปีที่แล้ว ในตอนนั้นกำลังต้องการฐานเล็กๆสำหรับวางงานประเภทมินิเอเจอร์อยู่ แต่ที่ไทยมันหาซื้อได้ยากหรือถ้าจะสั่งมาก็มีราคาแพงมากครับ จนไปเจอกระปุกใส่ไม้จิ้มฟันในเซเว่นที่ทำจากพลาสติก มีอยู่ 2 แบบครับ ขนาดกำลังเหมาะและราคาไม่แพง กระปุกละประมาณ 10-15 บาท ก็เลยซื้อกลับมาลองทำเป็นฐานสำหรับโมเดลดู ปรากฎว่ามันเหมาะมาก ก็เลยได้ใช้กับงานที่ผ่านมาบางชิ้นเช่น Justicar Jedidiah, Judgement และ Dark Angels Company Master ครับ
The toothpick box on the right was used only the cap and applied it as a lower plinth for Justicar Jedidiah and Judgement. The plinth on the left was applied from another toothpick box and was also the first plinth for Orc Flagger.
กระปุกทางด้านขวาสุด จะใช้เฉพาะส่วนฝาครอบด้านบนที่นำมาทำเป็นฐานครับ จะมีความสูงไม่มากเท่าไหร่ เคยใช้ในงาน Justicar Jedidiah กับ Judgement ครับ ส่วนฐานด้านซ้ายมือทำจากกระปุกทรงสูงฝาครอบสีชมพูครับ ชิ้นนี้เป็นฐานแบบแรกที่ทำไว้สำหรับตัว Orc Flagger ที่โชว์อยู่ด้วยครับ
In order to apply it, I cut the threaded portion of the box off with hand saw to make it easier to decorate the groundwork on top of the box. In this piece, I cut it as oblique angle or you can cut it only the threaded portion and cover the top of the box with plastic sheet (after filled inside with plaster), to make a plinth with flat top.
สำหรับวิธีการทำ นำกระปุกมาตัดส่วนที่เป็นเกลียวออกด้วยเลื่อยครับ เพื่อที่จะให้เวลาทำในส่วนของพื้นดินหรือฉากด้านบนของฐานนั้นทำได้ง่าย ไม่มีส่วนนี้มาเกะกะครับ ในชิ้นนี้ผมตัดแบบเฉียงเพื่อจะได้เหมาะกับแบบของฉากที่คิดจะทำครับ แต่คุณอาจจะตัดตรงตามแนวขอบของส่วนเกลียวก็ได้ครับ แล้วปิดทับส่วนบนที่ตัดออกด้วยแผ่นพลาสติก (หลังจากเทด้านในด้วยปูนพลาสเตอร์) ก็จะได้ฐานวางแบบที่มีด้านบนเรียบครับ
I filled inside the box with plaster (or modelling clay) in order to make it gain weight and be able to handle the weight of the groundwork and minis on top, and will not tilt or fall.
ผมใช้ปูนพลาสเตอร์มาเทด้านในของกระปุกให้เต็มครับ (หรืออาจจะใช้ดินปั้นก็ได้) เพื่อทำให้ตัวฐานนั้นมีน้ำหนักและสามารถรับน้ำหนักของส่วนของพื้นหรือฉาก และตัวโมเดลด้านบนได้ และไม่เอียงหรือล้มครับ
ผมใช้ปูนพลาสเตอร์มาเทด้านในของกระปุกให้เต็มครับ (หรืออาจจะใช้ดินปั้นก็ได้) เพื่อทำให้ตัวฐานนั้นมีน้ำหนักและสามารถรับน้ำหนักของส่วนของพื้นหรือฉาก และตัวโมเดลด้านบนได้ และไม่เอียงหรือล้มครับ
After finished the groundwork, I used Tamiya putty for filling any scratches or marks on the box and sanded with fine sandpaper (number 800-1200) then cleaning the box surface with water. When its dried, I used Citadel Chaos Black and sprayed over the whole piece in order to be a base coat for the groundwork and cover the clear plastic of the box at the same time, then you will not recognize it was made from a toothpick box :)
I don't know does it has this kind of toothpick box in 7-11 in another country, but I hope you would get the idea and lead you to create your own plinth with another materials.
Happy Modelling to all of you :)
หลังจากที่ทำส่วนของพื้นดินหรือฉากเสร็จ ผมใช้พุตตี้ของ Tamiya มาอุดร่องรอยต่างๆที่มีบนกระปุกอีกครั้งและขัดด้วยกระดาษทรายเบอร์ 800-1200 ครับ จากนั้นนำไปล้างทำความสะอาดและทิ้งให้แห้ง แล้วใช้สีสเปรย์กระป๋องสีดำมาพ่นให้ทั่วทั้งชิ้นงานครับ เพื่อเป็นการพ่นสีกลบส่วนที่เป็นพลาสติกใส และยังเป็นการรองพื้นสีในส่วนของฉากไปในตัวด้วยครับ เมื่อพ่นสีเสร็จออกมาแล้ว ก็ยากที่จะบอกได้แล้วครับว่านี่เป็นฐานที่ทำมาจากกระปุกไม้จิ้มฟัน :)
I don't know does it has this kind of toothpick box in 7-11 in another country, but I hope you would get the idea and lead you to create your own plinth with another materials.
Happy Modelling to all of you :)
Left: 3rd plinth for Orc Flagger Middle: Plinth for SMOD 03 Right: Plinth for SMOD 02 |