A quick update on the base, the painting is almost finished. The rock platform was painted with Grey and mixed with different shades of Brown for shadow, Ivory and White for highlight. These colors also used for painting tree trunk but I mixed them with Yellow Ochre and Sand Yellow for highlight instead of Ivory and White, in order to make they have different appearances but the overall color is still harmonious.
หลังจากที่ทำสีของฐานโดยรวมเสร็จแล้วครับ โดยสีของลานหินจะใช้สีโทนเทาเป็นหลักผสมกับสีน้ำตาลหลายๆเฉดสำหรับทาในส่วนของเงา และผสมกับสีขาวและ Ivory สำหรับทาในส่วนของแสง ซึ่งสีสำหรับทาลานหินนี้ยังถูกนำไปใช้ในการทาต้นไม้ด้วย เพียงแต่ผมจะนำมาผสมกับ Yellow Ochre กับ Sand Yellow สำหรับใช้ทาในส่วนของแสงแทน เพื่อที่จะทำให้สีของลานหินและต้นไม้นั้นดูต่างกัน แต่ในภาพรวมแล้วยังมีสีที่ไปในทางโทนเดียวกันครับ
Saturday, November 26, 2016
Wednesday, November 23, 2016
Orruk Megaboss (part 10)
For making the base, I used tree bark to create rock platform. I tend to use tree bark for this purpose instead of cork because the randomness of texture makes it look more realistic than cork in my opinion, it is also easy to cut and shape with art knife.
I collected different types of tree barks that felt from the tree around my neighborhood so I can choose which type is suited my idea, shape and size of the base. The tree bark I used on this base I think it is some kind of pine tree. I cut and shaped it with art knife, put it in layers and glued together with white glue. After it dried I added a tree branch and sculpted roots with DAS modeling clay (big roots) and Magic Sculpt (small roots).
I also used DAS modeling clay to fill the gaps between bark layers, then sanded lower edges to flush with the plastic base. I applied diluted Tamiya putty to fill the gaps on the edges then sanded again for a better result.
สำหรับการทำฐาน ผมเลือกใช้เปลือกไม้มาทำส่วนที่เป็นลานหิน เนื่องจากลักษณะผิวไม้ที่ขรุขระและไม่เป็นระเบียบจะช่วยให้จำลองลักษณะของหินได้ดีกว่าการใช้ไม้ก๊อกในความคิดส่วนตัวครับ และเปลือกไม้นั้นยังตัดแต่งได้ง่ายด้วย
โดยผมจะเลือกเก็บเปลือกไม้ชนิดต่างๆที่หลุดจากต้นมาเก็บเอาไว้ เพื่อที่จะได้นำมาเลือกใช้ให้เข้ากับแนวคิดและลักษณะหรือขนาดของฐานที่จะทำ ซึ่งอันที่เอามาใช้กับฐานชิ้นนี้เป็นเปลือกของต้นสนชนิดหนึ่งครับ นำมาตัดให้ได้รูปทรงที่เหมาะกับฐานและเรียงต่อกันเป็นชั้นและติดกาวเข้าด้วยกัน เมื่อกาวแห้งแล้วนำกิ่งไม้แห้งมาติดด้านหลังเพื่อเพิ่มเรื่องราวและใช้ดินปั้น DAS และ Magic Sculpt มาปั้นเป็นรากไม้อีกทีครับ
จากนั้นใช้ดินปั้น DAS มาอุดรอยต่อระหว่างเปลือกไม้ และส่วนขอบของเปลือกไม้ที่ติดกับฐาน ขัดส่วนของขอบฐานให้เรียบเสมอกัน แล้วอุดรอยต่างๆด้วยทามิย่าพุตตี้และขัดให้เรียบอีกรอบครับ
I collected different types of tree barks that felt from the tree around my neighborhood so I can choose which type is suited my idea, shape and size of the base. The tree bark I used on this base I think it is some kind of pine tree. I cut and shaped it with art knife, put it in layers and glued together with white glue. After it dried I added a tree branch and sculpted roots with DAS modeling clay (big roots) and Magic Sculpt (small roots).
I also used DAS modeling clay to fill the gaps between bark layers, then sanded lower edges to flush with the plastic base. I applied diluted Tamiya putty to fill the gaps on the edges then sanded again for a better result.
สำหรับการทำฐาน ผมเลือกใช้เปลือกไม้มาทำส่วนที่เป็นลานหิน เนื่องจากลักษณะผิวไม้ที่ขรุขระและไม่เป็นระเบียบจะช่วยให้จำลองลักษณะของหินได้ดีกว่าการใช้ไม้ก๊อกในความคิดส่วนตัวครับ และเปลือกไม้นั้นยังตัดแต่งได้ง่ายด้วย
โดยผมจะเลือกเก็บเปลือกไม้ชนิดต่างๆที่หลุดจากต้นมาเก็บเอาไว้ เพื่อที่จะได้นำมาเลือกใช้ให้เข้ากับแนวคิดและลักษณะหรือขนาดของฐานที่จะทำ ซึ่งอันที่เอามาใช้กับฐานชิ้นนี้เป็นเปลือกของต้นสนชนิดหนึ่งครับ นำมาตัดให้ได้รูปทรงที่เหมาะกับฐานและเรียงต่อกันเป็นชั้นและติดกาวเข้าด้วยกัน เมื่อกาวแห้งแล้วนำกิ่งไม้แห้งมาติดด้านหลังเพื่อเพิ่มเรื่องราวและใช้ดินปั้น DAS และ Magic Sculpt มาปั้นเป็นรากไม้อีกทีครับ
จากนั้นใช้ดินปั้น DAS มาอุดรอยต่อระหว่างเปลือกไม้ และส่วนขอบของเปลือกไม้ที่ติดกับฐาน ขัดส่วนของขอบฐานให้เรียบเสมอกัน แล้วอุดรอยต่างๆด้วยทามิย่าพุตตี้และขัดให้เรียบอีกรอบครับ
Wednesday, November 16, 2016
Orruk Megaboss (part 9)
This project I tried to paint a realistic non metallic metal (NMM) axe after I got inspired by the latest work of Michal Pisarski (Lan Studio) “The Warrior”. It was quite challenging and very difficult to get a realistic apperance on the NMM painting like he did, especially when I am not an expert in painting NMM and lack of knowledge about reflection of light on metal.
The painting was done with Vallejo acrylic and oil paint. I used Intermediate Blue mixed with Bronze Green as a base color then mixed it with Silver Grey and White for highlight, for shadow I mixed base color with German Camo Black Brown and Black. After finished with acrylic, I weathered the axe blade with oil paint. I used Winsor & Newton; Raw Umber and Burnt Sienna to simulate stain and grime. After it dried, I added rust spots and stains with Abteilung 502 oil paint; Dark Rust and Light Rust Brown.
Eventhough I am happy with the result, it still so far from realistic apperance in my opinion. I still have a lot to learn and practice in painting NMM.
งานชิ้นนี้ผมลองเพนท์ส่วนของใบขวานด้วยเทคนิค NMM (non metallic metal) และพยายามจะทำให้มันดูสมจริงที่สุดหลังจากได้แรงบันดาลใจจากผลงานของ Michal Pisarski (Lan Studio) “The Warrior” ที่เพนท์ส่วนของโลหะด้วยเทคนิค NMM ได้สมจริงมากครับ
สำหรับการเพนท์จะใช้สีอะครีลิคของ Vallejo เป็นหลัก โดยผมเลือกใช้สี Intermediate Blue กับ Bronze Green มาผสมกันเพื่อใช้เป็นสีพื้น จากนั้นนำสีพื้นนี้ไปผสมกับ Silver Grey และ White สำหรับสีของไฮไลท์ และผสมสีพื้นกับ German Camo Black Brown และ Black สำหรับสีของเงา จากนั้นใช้สีเหล่านี้ในการทาไล่แสงเงาแบบ NMM
เมื่อเสร็จการเพนท์ด้วยสีอะครีลิคแล้ว ผมใช้สีน้ำมันมาเวทเธอริ่งบนใบขวานเพื่อจำลองคราบสกปรกต่างๆ โดยใช้สีน้ำมันของ Winsor & Newton สี Raw Umber และ Burnt Sienna สำหรับทำคราบสกปรกที่ติดตามใบขวาน จากนั้นทิ้งให้แห้งแล้วใช้สีน้ำมันของ Abteilung 502 สี Dark Rust และ Light Rust Brown มาทำคราบสนิมที่ติดบนใบขวานอีกทีเป็นอันเสร็จครับ
ส่วนตัวค่อนข้างพอใจกับผลลัพท์ที่ได้แม้จะรู้สึกว่ามันยังดูไม่ค่อยสมจริงเท่าไหร่ โดยเฉพาะเรื่องของแสงและเงา ผมคิดว่าการเพนท์เลียนแบบการกระทบของแสงบนโลหะเป็นอะไรที่ยากจริงๆ คิดว่าคงต้องเรียนรู้และฝึกเพิ่มเติมไปเรื่อยๆเพื่อให้ได้ผลลัพท์ที่ดีกว่านี้ครับ
The painting was done with Vallejo acrylic and oil paint. I used Intermediate Blue mixed with Bronze Green as a base color then mixed it with Silver Grey and White for highlight, for shadow I mixed base color with German Camo Black Brown and Black. After finished with acrylic, I weathered the axe blade with oil paint. I used Winsor & Newton; Raw Umber and Burnt Sienna to simulate stain and grime. After it dried, I added rust spots and stains with Abteilung 502 oil paint; Dark Rust and Light Rust Brown.
Eventhough I am happy with the result, it still so far from realistic apperance in my opinion. I still have a lot to learn and practice in painting NMM.
งานชิ้นนี้ผมลองเพนท์ส่วนของใบขวานด้วยเทคนิค NMM (non metallic metal) และพยายามจะทำให้มันดูสมจริงที่สุดหลังจากได้แรงบันดาลใจจากผลงานของ Michal Pisarski (Lan Studio) “The Warrior” ที่เพนท์ส่วนของโลหะด้วยเทคนิค NMM ได้สมจริงมากครับ
สำหรับการเพนท์จะใช้สีอะครีลิคของ Vallejo เป็นหลัก โดยผมเลือกใช้สี Intermediate Blue กับ Bronze Green มาผสมกันเพื่อใช้เป็นสีพื้น จากนั้นนำสีพื้นนี้ไปผสมกับ Silver Grey และ White สำหรับสีของไฮไลท์ และผสมสีพื้นกับ German Camo Black Brown และ Black สำหรับสีของเงา จากนั้นใช้สีเหล่านี้ในการทาไล่แสงเงาแบบ NMM
เมื่อเสร็จการเพนท์ด้วยสีอะครีลิคแล้ว ผมใช้สีน้ำมันมาเวทเธอริ่งบนใบขวานเพื่อจำลองคราบสกปรกต่างๆ โดยใช้สีน้ำมันของ Winsor & Newton สี Raw Umber และ Burnt Sienna สำหรับทำคราบสกปรกที่ติดตามใบขวาน จากนั้นทิ้งให้แห้งแล้วใช้สีน้ำมันของ Abteilung 502 สี Dark Rust และ Light Rust Brown มาทำคราบสนิมที่ติดบนใบขวานอีกทีเป็นอันเสร็จครับ
ส่วนตัวค่อนข้างพอใจกับผลลัพท์ที่ได้แม้จะรู้สึกว่ามันยังดูไม่ค่อยสมจริงเท่าไหร่ โดยเฉพาะเรื่องของแสงและเงา ผมคิดว่าการเพนท์เลียนแบบการกระทบของแสงบนโลหะเป็นอะไรที่ยากจริงๆ คิดว่าคงต้องเรียนรู้และฝึกเพิ่มเติมไปเรื่อยๆเพื่อให้ได้ผลลัพท์ที่ดีกว่านี้ครับ
Friday, November 11, 2016
Thursday, November 10, 2016
Subscribe to:
Posts (Atom)