Kimera Kolors เป็นสีที่ผลิตโดย Kimera Models ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ Pegaso Models จากประเทศอิตาลี่ที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2016 โดย Kimera Models จะเน้นไปที่การผลิตงานฟิกเกอร์แนวแฟนตาซีเป็นหลักทั้งงานบัสและแบบเต็มตัว ช่วงปลายปีที่แล้วทาง Kimera Models ได้เปิดตัวสี Kimera Kolors ซึ่งเป็นสีสำหรับใช้ในการเพนท์ฟิกเกอร์แนวแฟนตาซีโดยเฉพาะ ซึ่งก็ได้ผลตอบรับที่ดีมากและมีคนสนับสนุนมากมายจนสินค้า 300 ชุดแรกที่เปิดให้พรีออเดอร์นั้นหมดลงอย่างรวดเร็ว และจัดส่งให้กับให้กับผู้ที่พรีออเดอร์ไว้ตั้งแต่ช่วงปลายปีที่แล้วครับ
ตัวผมเองเมื่อได้สีชุดนี้มาก็นำมาลองใช้กับงาน Sgt. Blackburn เป็นชิ้นแรก และใช้ต่อเนื่องมาเรื่อยๆกับงานชิ้นอื่นๆ จริงๆตั้งใจว่าจะเขียนรีวิวสีนี้มาตั้งแต่ต้นปี แต่คิดว่าลองใช้ให้คุ้นก่อนดีกว่าค่อยนำมารีวิวกันทีเดียว จะได้บอกข้อดีข้อเสียได้ว่าเป็นอย่างไรครับ
โดยสี Kimera Kolors จะมาแบบเป็นเซ็ต 14 ขวด ประกอบด้วยสี 13 สี และ Satin Medium 1 ขวด สนนราคาทั้งหมดอยู่ที่ประมาณ $70 สหรัฐ รวมค่าส่งแล้ว ซึ่งปริมาตรบรรจุของขวดจะมีขนาด 30ml ใหญ่กว่าของ Vallejo (17ml) และ Citadel (12ml) นอกจากนั้นภายในกล่องก็จะมีแผ่นพับตัวอย่างของการผสมสีแนบมาให้ด้วย เพื่อเป็นแนวทางให้สำหรับคนที่ไม่คุ้นชินกับการผสมสีด้วยตัวเอง ให้ลองทำตามได้สะดวกมากขึ้น
สำหรับการนำไปใช้งานจริง สีคิเมร่าเคลมไว้ว่าเป็นสีที่มีพิกเมนต์เข้มข้นมากกว่า 30% ทำให้สีที่ทาลงไปบนพื้นผิวนั้นทึบและเต็มเร็ว ด้วยเหตุนี้การผสมสีที่เข้มกว่าลงบนสีที่อ่อนกว่า เพียงแค่ผสมสีที่เข้มกว่าลงไปนิดเดียวก็พอที่จะทำให้เห็นการเปลี่ยนแปลงของสีได้ชัดเจน นอกจากนี้ลักษณะของสีที่หยดออกจากขวดจะค่อนข้างข้น จึงควรผสมน้ำเล็กน้อยก่อนนำไปทาลงบนชิ้นงาน และควรเขย่าขวดทุกครั้งก่อนใช้เพื่อให้สีที่อาจตกตะกอนภายในขวดนั้นผสมเข้าด้วยกันเสียก่อน
ข้อดีของสีคิเมร่า เท่าที่ลองใช้มาจะทาได้ง่ายและทึบไว ให้พื้นผิวที่เรียบและด้านสนิท เมื่อทาลงบนพื้นผิวสีจะแห้งเร็ว เรียกว่าแทบจะแห้งทันทีที่ยกพู่กันออก ทำให้การทาเกลี่ยสีหรือการทาเกลซนั้นทำได้สะดวกมากขึ้น เพราะสีที่แห้งเร็วจะทำให้เห็นชั้นสีที่ลงไว้ได้ชัดเจนและทำงานได้ต่อเนื่อง(และสนุกมากขึ้น) ส่วนตัวชอบสีดำของคิเมร่ามาก เพราะสีดำของคิเมร่าให้สีที่ด้านแต่ดำสนิท มากกว่าสีดำของหลายๆยี่ห้อที่เคยลองใช้มา ที่จะออกไปทางเทาดำหรือให้พื้นผิวแบบกึ่งมันกึ่งด้าน ตอนนี้จึงให้สีดำของคิเมร่าเป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งครับ
อีกหนึ่งอย่างที่ชอบคือขวดสีของคิเมร่านั้นออกแบบมาให้หยดสีออกมาได้ทีละหยด ทำให้สะดวกต่อการกะปริมาณของการผสมสีแต่ละครั้งให้ได้สัดส่วนที่เท่าเดิมกับที่ผสมไว้ก่อนหน้า
ข้อดีสุดท้ายที่พบคือสีคิเมร่าเมื่อนำมาใช้บน wet palette แล้ว จะสามารถเก็บได้นานเป็นอาทิตย์ (เก็บในกล่องที่มีฝาปิดมิดชิด) เท่าที่เคยลองใช้คือหลังจากผ่านไปอาทิตย์กว่าๆ เมื่อกลับมาเปิดดูสียังคงแฉะๆอยู่ พอเอาน้ำหยดลงไปและกวนสีให้เข้ากันใหม่ ก็ยังสามารถนำมาใช้ทาได้โดยที่คุณสมบัติของสีนั้นยังคงเดิม
ข้อเสียของสีคิเมร่า เนื่องจากพิกเมนต์ของสีที่เข้มข้นและสีนั้นแห้งเร็ว ทำให้สีบางสีที่โดยปกติทายากอยู่แล้วอย่าง สีแดง สีเหลือง และสีขาว ต้องการการผสมสีกับน้ำให้เจือจางมากกว่าที่ใช้กับสียี่ห้ออื่นๆ เพราะสีเหล่านี้หากผสมน้ำน้อยเกินไป เมื่อทาลงไปแล้วสีแห้งเร็ว จะทำให้สีนั้นหนาและเกิดเป็นรอยทีแปรงได้ง่าย การผสมน้ำที่มากขึ้นจะช่วยลดปัญหานี้แต่ก็ทำให้การทาสีเหล่านี้ใช้เวลาในการทาให้ทึบนานกว่าสีอื่นๆ คนที่เคยชินกับการใช้สียี่ห้ออื่นมาโดยตลอด อาจจะต้องมาปรับวิธีการใช้หรือผสมสีกันใหม่
นอกจากนี้การที่สีคิเมร่านั้นทำออกมาเพียงแค่ 13 สี (อาจจะมีการผลิตสีอื่นๆเพิ่มขึ้นในอนาคต) จึงทำให้ผู้ใช้ต้องผสมสีต่างๆที่ต้องการขึ้นมาเอง เพราะสีที่ให้มาเป็นเพียงสีหลักๆที่ใช้งานบ่อยแต่ไม่ได้ครอบคลุมทั้งหมด แม้จะมีแผ่นพับตัวอย่างการผสมสีมาให้ แต่ตรงจุดนี้ยังต้องอาศัยประสบการณ์พอสมควรและอาจไม่เหมาะสำหรับคนที่ไม่ชำนาญในเรื่องของการผสมสี
โดยสรุปแล้ว สีคิเมร่าเป็นสีที่ดีมากและตอบโจทย์การใช้งานของตัวเองหลายๆอย่าง ส่วนตัวจึงให้สียี่ห้อนี้เป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งของการเพนท์งานแนวแฟนตาซี แต่ด้วยข้อจำกัดของเฉดสีที่มีมาให้ ถ้าเป็นงานประเภทฟิกเกอร์ทหาร หรือประวัติศาสตร์ ส่วนตัวก็ยังคงใช้สีของ Vallejo เช่นเดิมเพราะสะดวกกว่ามาก หรือหากต้องการสีเฉพาะสำหรับการเพนท์สเปซมารีนแชปเตอร์ต่างๆ ก็คงยังเลือกใช้สีของทาง Citadel เพราะว่ามันสะดวกกว่าเช่นกันครับ
หากท่านสนใจสีที่ให้ความด้านสนิทและชอบความท้าทายของการผสมสี สียี่ห้อนี้ก็เป็นตัวเลือกที่ดีมากอีกอันหนึ่งครับ แต่เนื่องจากสีนี้ได้รับความนิยมอย่างสูงในขณะนี้ จึงทำให้การหาซื้ออาจจะลำบากสักหน่อย ต้องคอยติดตามข่าวสารจากทางเพจของ Kimera Models ที่จะคอยแจ้งว่าสีลอตใหม่จะเข้าเมื่อไหร่ (ซึ่งจะขายหมดเร็วมาก) หากสนใจเข้าไปติดตามได้ทางลิ้งด้านล่างครับ และหวังว่าบทความนี้คงจะช่วยให้รู้จักสียี่ห้อนี้กันได้ดีมากขึ้น หากมีคำถามใดๆเพิ่มเติมสามารถสอบถามมาได้ตลอดครับ ส่วนภาพต่างๆที่ลงไว้จะมีคำบรรยายเพิ่มเติมกำกับไว้ด้วยครับ ไว้พบกันใหม่คราวหน้าครับ
https://kimeramodels.com/
https://www.facebook.com/kimeramodels/
หน้าตาของบรรจุภัณฑ์ที่ทำมาอย่างสวยงามและสะดวกต่อการหยิบใช้
แผ่นพับที่มีให้มาในกล่องบอกรายละเอียดและคุณสมบัติของตัวสี รวมถึงตัวอย่างการผสมสีแบบต่างๆ เพื่อให้สะดวกต่อการใช้งานมากขึ้น
Sgt. Blackburn เป็นงานชิ้นแรกที่ทดลองใช้สีคิเมร่าในการเพนท์ทั้งหมด ยกเว้นส่วนของสีเมทัลลิกที่ไม่มีผลิตออกมา และส่วนของผิวเนื้อที่เพนท์เอาไว้ก่อนที่สีคิเมร่าจะมาถึง ในภาพจะเห็นสีของชุดเกราะที่ดูสด(rich) และด้านสนิทซึ่งเกิดจากคุณสมบัติของตัวสีเองโดยไม่ได้มีการผสมมีเดียมหรือพ่นเคลือบใดๆเลย สำหรับภาพเพิ่มเติมของงานชิ้นนี้เข้าไปดูได้ตามลิ้งครับ
https://thor-modelling.blogspot.com/2019/03/sgt-blackburn.html
งาน Abaddon ชิ้นนี้นำสีคิเมร่ามาใช้ในหลายๆส่วน เช่นสีผิว, ชุดเกราะสีดำแดง รวมถึงสีเงิน NMM ที่คอและส่วนข้อต่อต่างๆก็ใช้สีคิเมร่าเช่นกัน
สีที่นำมาใช้ผสมเป็นสีเนื้อของ Abaddon ไล่จากหยดสีซ้ายไปขวาคือ Yellow Oxide, Red Oxide, Pthalo Blue, Carbon Black, The White, Violet เนื่องจากต้องการให้สีผิวนั้นดูซีดและไม่เหมือนสีผิวของมนุษย์ทั่วไป จึงนำสีน้ำเงินมาผสมในสีผิวและใช้สีม่วงมาทาเกลซเพิ่มน้ำหนักในส่วนของเงา
ส่วนการผสมสีที่เห็นจะเป็นการผสมสีแบบไล่เฉดจากเข้มไปหาอ่อน โดยส่วนด้านซ้ายจะเป็นสีเข้มคือน้ำเงินผสมดำเล็กน้อย แล้วนำสีแดงมาผสมให้สีทั้งสองนั้นกลืนกัน จากนั้นนำสีเหลืองมาผสมให้กลืนกับสีแดง และนำสีขาวมาผสมให้กลืนกับสีเหลืองอีกที จนได้สีไล่จากเข้มไปอ่อนแบบที่เห็น พอเวลาเพนท์สีไล่แสงเงาบนชิ้นงานก็จะเลือกแต้มสีให้ตรงกับแต่ละส่วนตามที่ผสมเอาไว้
วิธีผสมสีแบบนี้จะเหมาะกับการเพนท์พื้นที่ๆไม่ใหญ่มากและสามารถเพนท์จนเสร็จได้ในเวลาไม่นานนักครับ