The Battle of Hürtgen Forest, Germany 1944
Alpine Miniatures 1/35 scale resin figure
Another recently finished project. A beautifully sculpted figure in 1/35 scale from Alpine Miniatures. It was done with Vallejo acrylics. The base was made from DAS modelling clay, decorated with soil and small rocks. I used jute or hemp rope as dried pine needles on the ground. Dried leaves were made from a mixture of different shades of crushed dried leaves, *Ausfwerks's Ground cover (small dried leaves), and white glue. Moss were made from GaleForce nine's Meadow Blend Flock.
The painting on the base was done with Vallejo acrylics and weathering with enamels and pigments from Ammo of MIG.
I really enjoyed painting it! I definitely will paint more 1/35 figures in the future.
* I bought this product many years ago, now they are out of business. You can find a similar product from Joefix Studio's or Ammo of Mig.
อีกหนึ่งงานที่พึ่งทำเสร็จไปเมื่อเร็วๆนี้ครับ เป็นฟิกเกอร์ทหารอเมริกันช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ของ Alpine Miniatures งานชิ้นนี้เพนท์ด้วยสีอะครีลิคของวัลเลโฮครับ Vallejo ส่วนของฐานทำขึ้นมาจากดินปั้นของ DAS ตกแต่งผิวด้วยดินและก้อนกรวดที่เก็บจากข้างถนน ผมใช้เชือกกระสอบมาตัดเป็นเส้นสั้นๆเพื่อทำเป็นใบสนที่แห้งบนพื้น ส่วนใบไม้แห้งที่ตกตามพื้นนั้น ทำด้วยการนำใบไม้แห้งของจริงหลายๆสีมาตัดให้ละเอียด และใช้ผลิตภัณฑ์ของ *Ausfwerks ที่เป็นไบไม้แห้งขนาดเล็ก นำมาผสมกันกับกาวน้ำแล้วทาลงบนฐาน เมื่อแห้งแล้วจะได้ใบไม้แห้งคละสีที่กองสุมๆกันและติดอยู่ตามพื้นแบบที่เห็นครับ ส่วนมอสที่ติดอยู่ตามหินทำจากผลิตภัณฑ์ของ GaleForce nine ชื่อ Meadow Blend Flock จะมีลักษณะคล้ายๆกับฟองน้ำฉีกเป็นชิ้นฝอยเล็กๆครับ
สำหรับการทำสีฐานผมใช้การเพนท์ด้วยสีอะครีลิคของวัลเลโฮแล้วเวทเธอริ่งด้วยสีอินาเมลและพิกเมนต์ของ Ammo of MIG ครับ
งานชิ้นนี้เป็นอีกหนึ่งงานที่ตอนทำมีความสุขมากครับ ฟิกเกอร์ตัวนี้ปั้นออกมาได้สวยมากๆ ทั้งท่าทางและรายละเอียดต่างๆ พอทำเสร็จออกมาแล้วรู้สึกว่าคงจะต้องหาฟิกเกอร์ตัวอื่นๆ มาจัดวางบนฐานเดี่ยวเพิ่มอีกแน่นอน ผมคิดว่าการทำฟิกเกอร์ที่วางบนฐานเดี่ยวแบบนี้ ถ้าทำเสร็จหลายๆตัว เมื่อวางรวมกันจะดูสวยมากครับ ไว้มีโอกาสได้ทำอีกเมื่อไหร่จะนำความคืบหน้ามาลงอีกทีครับ
* ผลิตภัณฑ์ของ Ausfwerks อันนี้ผมซื้อมาหลายปีแล้วครับ เข้าใจว่าตอนนี้บริษัทนี้ปิดตัวไปแล้ว หากต้องการผลิตภัณฑ์แบบที่ใกล้เคียงกัน ลองเข้าไปดูได้ที่ Joefix Studio's และ Ammo of Mig ครับ
Friday, April 29, 2016
Tuesday, April 26, 2016
Casualties of War
Here are the photos of the finished vignette. This project I wanted to express the feeling of German soldiers who exhausted and sorrow from their failure in the battle, and the things they have seen during the retreat. The title "Casualties of War" in this project does not mean only an injured soldier or a civilian corpse, but it means they all have been affected by the war not only physically but mentally. War is a terrible thing, it is the concept of this project.
Although this concept can be completed with only a soldier and a civilian corpse, I put another figure on the back for a better composition. The second figure will also help to convince the viewer to imagine it is not just a story of one or two walking soldiers, maybe there are a large group of retreating soldiers out of this scene.
The base and building were made from plaster, a pile of debris made from smashed brick mixed with white glue. The painting was done with acrylics, enamels and pigments. The figures are from Dragon and a civilian arm was sculpted from Magic sculpt with a Hornet hand, all painted with Vallejo acrylics.
This is the project I have been waiting to finish for many years, I am so happy to have finally finished it. Diorama and vignette are my most favorite subject to do but it takes a lot of time and effort to finish. During the past several years, I have finished only a few pieces in both diorama and vignette. Even though diorama or vignette requires many things in order to finish the piece, it is always a pleasure to have a chance to do it. I still have many diorama and vignette projects that I have planned to do, hope I will find the chance to finish them soon.
ภาพผลงานที่เสร็จแล้วครับ งานชิ้นนี้ผมต้องการสื่อถึงเรื่องราวของทหารเยอรมันที่เหนื่อยล้าและผิดหวังจากการพ่ายแพ้ในการรบ ทำให้ต้องล่าถอยออกจากเมืองและได้เห็นถึงสภาพความโหดร้ายที่เกิดจากการสู้รบของทั้งสองฝ่าย ชื่อผลงานที่แปลว่า "ผู้สูญเสียจากสงคราม" ในที่นี่ไม่ได้หมายถึงเฉพาะทหารที่ได้รับบาดเจ็บหรือพลเมืองที่เสียชีวิตจากการสู้รบเท่านั้น แต่ยังหมายถึงทุกๆคนไม่ว่าจะเป็นทหารหรือพลเรือนนั้นต่างได้รับผลกระทบจากสงครามกันทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นทั้งทางร่างกายหรือทางจิตใจ เพราะสงครามคือสิ่งที่เลวร้ายและน่ากลัว นี่เป็นแนวความคิดที่ผมนำมาใช้ในการสร้างผลงานชิ้นนี้ครับ
ซึ่งแนวความคิดที่นำมาใช้สร้างงานนี้ จริงๆแล้วมีเพียงแค่ฟิกเกอร์ทหารหนึ่งตัวกับศพของพลเรือนก็สามารถสื่อให้เห็นถึงแนวคิดนี้ได้ แต่สาเหตุที่ผมเลือกที่จะใส่ฟิกเกอร์ทหารตัวที่สองลงไปตรงด้านหลัง เพราะมันจะช่วยให้การจัดองค์ประกอบของฉากนั้นดูน่าสนใจขึ้น รวมถึงฟิกเกอร์ตัวที่สองยังช่วยโน้มน้าวให้คนดูจินตนาการได้ว่า เรื่องราวของฉากนี้ไม่ได้มีเพียงแค่ทหารที่เดินอยู่สองคน แต่อาจจะมีกองทหารที่กำลังล่าถอยออกจากเมืองอยู่ด้านหลังขอบเขตของฉากนี้ด้วยครับ
ส่วนการทำฉากนี้ ตัวพื้นฉากและอาคารทำขึ้นมาจากปูนพลาสเตอร์ ส่วนกองเศษอิฐทำจากอิฐจริงนำมาทุบละเอียดผสมดับกาวน้ำ ทั้งหมดทำสีด้วยสีอะครีลิค อินาเมล และพิกเมนต์ครับ ส่วนฟิกเกอร์ดัดแปลงมาจากฟิกเกอร์ของ Dragon ส่วนแขนของศพพลเรือนปั้นขึ้นมาด้วย Magic sculpt และใช้ชิ้นส่วนมือของ Hornet ทั้งหมดทำสีด้วยสีอะครีลิค Vallejo ครับ
งานชิ้นนี้เป็นงานที่ผมตั้งใจอยากจะทำให้เสร็จมาหลายปี ดีใจที่ในที่สุดมันก็เสร็จเสียที ส่วนตัวแล้วผมเป็นคนที่ชื่นชอบการทำ diorama กับ vignette มากที่สุดในทั้งหมดของการทำโมเดล แต่งานประเภทนี้เป็นงานที่ตั้องใช้เวลาและความพยายามสูงในการที่จะทำให้เสร็จสักหนึ่งชิ้น โดยเฉพาะงานที่มีขนาดใหญ่จะยิ่งใช้เวลามาก ช่วงหลายปีที่ผ่านมาผมจึงทำฉากจำลองทั้งเล็กและใหญ่เสร็จได้เพียงแค่ไม่กี่ชิ้นเท่านั้น ถึงแม้ว่ามันจะต้องเหนื่อยและลงทุนลงแรงเยอะกับงานประเภทนี้ แต่ส่วนตัวก็ยังมีความสุขทุกๆครั้งที่ได้ทำมันจนเสร็จสมบูรณ์ ออกมาเป็นรูปเป็นร่างอย่างที่ตั้งใจไว้ครับ หลังจากงานชิ้นนี้แล้วผมยังมีไอเดียของฉากที่อยากจะทำอยู่อีกหลายชิ้น บางชิ้นก็ทำค้างไว้ตั้งแต่หลายปีก่อน หวังว่าจะมีโอกาสได้นำกลับมาทำต่อให้เสร็จเร็วๆนี้ครับ
Although this concept can be completed with only a soldier and a civilian corpse, I put another figure on the back for a better composition. The second figure will also help to convince the viewer to imagine it is not just a story of one or two walking soldiers, maybe there are a large group of retreating soldiers out of this scene.
The base and building were made from plaster, a pile of debris made from smashed brick mixed with white glue. The painting was done with acrylics, enamels and pigments. The figures are from Dragon and a civilian arm was sculpted from Magic sculpt with a Hornet hand, all painted with Vallejo acrylics.
This is the project I have been waiting to finish for many years, I am so happy to have finally finished it. Diorama and vignette are my most favorite subject to do but it takes a lot of time and effort to finish. During the past several years, I have finished only a few pieces in both diorama and vignette. Even though diorama or vignette requires many things in order to finish the piece, it is always a pleasure to have a chance to do it. I still have many diorama and vignette projects that I have planned to do, hope I will find the chance to finish them soon.
ภาพผลงานที่เสร็จแล้วครับ งานชิ้นนี้ผมต้องการสื่อถึงเรื่องราวของทหารเยอรมันที่เหนื่อยล้าและผิดหวังจากการพ่ายแพ้ในการรบ ทำให้ต้องล่าถอยออกจากเมืองและได้เห็นถึงสภาพความโหดร้ายที่เกิดจากการสู้รบของทั้งสองฝ่าย ชื่อผลงานที่แปลว่า "ผู้สูญเสียจากสงคราม" ในที่นี่ไม่ได้หมายถึงเฉพาะทหารที่ได้รับบาดเจ็บหรือพลเมืองที่เสียชีวิตจากการสู้รบเท่านั้น แต่ยังหมายถึงทุกๆคนไม่ว่าจะเป็นทหารหรือพลเรือนนั้นต่างได้รับผลกระทบจากสงครามกันทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นทั้งทางร่างกายหรือทางจิตใจ เพราะสงครามคือสิ่งที่เลวร้ายและน่ากลัว นี่เป็นแนวความคิดที่ผมนำมาใช้ในการสร้างผลงานชิ้นนี้ครับ
ซึ่งแนวความคิดที่นำมาใช้สร้างงานนี้ จริงๆแล้วมีเพียงแค่ฟิกเกอร์ทหารหนึ่งตัวกับศพของพลเรือนก็สามารถสื่อให้เห็นถึงแนวคิดนี้ได้ แต่สาเหตุที่ผมเลือกที่จะใส่ฟิกเกอร์ทหารตัวที่สองลงไปตรงด้านหลัง เพราะมันจะช่วยให้การจัดองค์ประกอบของฉากนั้นดูน่าสนใจขึ้น รวมถึงฟิกเกอร์ตัวที่สองยังช่วยโน้มน้าวให้คนดูจินตนาการได้ว่า เรื่องราวของฉากนี้ไม่ได้มีเพียงแค่ทหารที่เดินอยู่สองคน แต่อาจจะมีกองทหารที่กำลังล่าถอยออกจากเมืองอยู่ด้านหลังขอบเขตของฉากนี้ด้วยครับ
ส่วนการทำฉากนี้ ตัวพื้นฉากและอาคารทำขึ้นมาจากปูนพลาสเตอร์ ส่วนกองเศษอิฐทำจากอิฐจริงนำมาทุบละเอียดผสมดับกาวน้ำ ทั้งหมดทำสีด้วยสีอะครีลิค อินาเมล และพิกเมนต์ครับ ส่วนฟิกเกอร์ดัดแปลงมาจากฟิกเกอร์ของ Dragon ส่วนแขนของศพพลเรือนปั้นขึ้นมาด้วย Magic sculpt และใช้ชิ้นส่วนมือของ Hornet ทั้งหมดทำสีด้วยสีอะครีลิค Vallejo ครับ
งานชิ้นนี้เป็นงานที่ผมตั้งใจอยากจะทำให้เสร็จมาหลายปี ดีใจที่ในที่สุดมันก็เสร็จเสียที ส่วนตัวแล้วผมเป็นคนที่ชื่นชอบการทำ diorama กับ vignette มากที่สุดในทั้งหมดของการทำโมเดล แต่งานประเภทนี้เป็นงานที่ตั้องใช้เวลาและความพยายามสูงในการที่จะทำให้เสร็จสักหนึ่งชิ้น โดยเฉพาะงานที่มีขนาดใหญ่จะยิ่งใช้เวลามาก ช่วงหลายปีที่ผ่านมาผมจึงทำฉากจำลองทั้งเล็กและใหญ่เสร็จได้เพียงแค่ไม่กี่ชิ้นเท่านั้น ถึงแม้ว่ามันจะต้องเหนื่อยและลงทุนลงแรงเยอะกับงานประเภทนี้ แต่ส่วนตัวก็ยังมีความสุขทุกๆครั้งที่ได้ทำมันจนเสร็จสมบูรณ์ ออกมาเป็นรูปเป็นร่างอย่างที่ตั้งใจไว้ครับ หลังจากงานชิ้นนี้แล้วผมยังมีไอเดียของฉากที่อยากจะทำอยู่อีกหลายชิ้น บางชิ้นก็ทำค้างไว้ตั้งแต่หลายปีก่อน หวังว่าจะมีโอกาสได้นำกลับมาทำต่อให้เสร็จเร็วๆนี้ครับ
Saturday, April 23, 2016
Krom Dragongaze
Wolf Lord of the Space Wolves Space Marine
(Space Marines On Display no.06)
I finished this piece last year but did not have a proper camera to take a final photo until now. You can find the previous posts of this project on the "Labels: MiniWar : Sci-Fi" at the end of this post or in the contents.
งานชิ้นนี่ผมทำเสร็จตั้งแต่ช่วงปลายปีที่แล้วครับ พึ่งจะมีโอกาสได้นำมาถ่ายรูปหลังจากที่ได้กล้องใหม่มา ส่วนขั้นตอนการทำงานต่างๆของงานชิ้นนี้ที่เคยลงเอาไว้ สามารถเข้าไปดูได้ที่ Label: MiniWar : Sci-Fi ตรงส่วนท้ายของโพสนี้หรือเลือกจากสารบัญที่อยู่ด้านขวาของหน้าเว็บก็ได้ครับ
(Space Marines On Display no.06)
I finished this piece last year but did not have a proper camera to take a final photo until now. You can find the previous posts of this project on the "Labels: MiniWar : Sci-Fi" at the end of this post or in the contents.
งานชิ้นนี่ผมทำเสร็จตั้งแต่ช่วงปลายปีที่แล้วครับ พึ่งจะมีโอกาสได้นำมาถ่ายรูปหลังจากที่ได้กล้องใหม่มา ส่วนขั้นตอนการทำงานต่างๆของงานชิ้นนี้ที่เคยลงเอาไว้ สามารถเข้าไปดูได้ที่ Label: MiniWar : Sci-Fi ตรงส่วนท้ายของโพสนี้หรือเลือกจากสารบัญที่อยู่ด้านขวาของหน้าเว็บก็ได้ครับ
Friday, April 22, 2016
Subscribe to:
Posts (Atom)