Friday, July 20, 2012

1.5. Making soil surface on a large base

(การทำพื้นดินบนฐานขนาดใหญ่ - ฉากถนนในชนบทของยุโรป ตอนที่ 1 - หน้าร้อน )
วิธีนี้จะใช้หลักการเดียวกับการทำพื้นดินบนฐานขนาดเล็กครับ แต่ระยะเวลาในการทำงานและรายละเอียดต่างๆจะเพิ่มมากขึ้นไปตามขนาดของฐานครับ ซึ่งเทคนิคนี้สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการทำฐานสำหรับโมเดลต่างๆได้ทุกสเกล แล้วแต่จะนำไปปรับใช้กันครับ ที่ผมทำมาให้ดูจะเป็นฐานสำหรับโมเดลมิลิทารี่ ในสเกล 1/35 นะครับ ถ้าต้องการจะทำฐานสำหรับหุ่นยนต์ในสเกล 1/144 หรือ 1/100 ก็ต้องเลือกวัสดุที่จะนำมาทำหญ้าหรือต้นไม้ให้มีขนาดที่ดูสอดคล้องไปกับตัวโมเดลอีกที เพื่อให้ดูเหมาะสมตามสัดส่วนของสเกลที่เลือกทำครับ 


(ตอนที่เริ่มทำ ผมทำไปพร้อมๆกัน 4 ชิ้นครับ ใช้เวลาในการทำงานไม่กี่ชั่วโมง เพราะวิธีการทำจะใช้แบบเดียวกันทั้งหมด ถ้าวางแผนในการทำงานให้ดีๆ วิธีนี้จะสะดวกและไม่ยุ่งยากอย่างที่คิดครับ) 


เริ่มต้นด้วยการทำฐานจากกล่องกระดาษ แล้วเอาไม้บัลซ่าที่มีความหนามากหน่อยมากั้นเป็นกรอบทั้ง 4 ด้าน จากนั้นตัดแผ่นโฟมให้พอดีแล้วใส่ไว้ด้านในครับ ชิ้นนี้ผมออกแบบให้มีแนวถนนในด้านซ้าย และรถถังแล่นตัดทุ่งมาทางด้านขวามือ ผมเลือกใช้ดินเยื่อกระดาษ (ขั้นตอนนี้ทำไว้นานมากแล้ว ตอนนี้แนะนำว่าใช้ดินปั้นของ DAS ที่เคยแนะนำไว้ก่อนหน้านี้ จะให้ผลที่ดีกว่า และราคาถูกกว่าครับ) มาทำในส่วนของพื้นดินบนถนนและตรงที่รถถังวิ่งผ่าน เนื่องจากดินเยื่อกระดาษจะใช้เวลาในการเซ็ทตัวนานกว่าปูนครับ ทำให้เรามีเวลาในการกดรอยล้อรถหรือตีนตะขาบได้ง่ายกว่า และร่องรอยที่ได้จะดูชัดเจนดีกว่าด้วยครับ  


วิธีใช้ก็คือแบ่งออกมาจากห่อและนำมานวดและคลึงให้แผ่ออกเป็นแผ่นบางๆครับ นำไปติดลงบนฐานด้วยกาวลาเท็กซ์ ส่วนที่ไม่ได้ใช้ก็นำไปเก็บในกระปุกหรือกล่องที่ปิดสนิทและอย่าโดนแดดครับ เพราะถ้าดินโดนอากาศแล้วจะทำให้แข็งตัว และไม่สามารถนำกลับมาใช้ได้อีก จากนั้นใช้กาวลาเท็กซ์ผสมน้ำ ทาเกลี่ยที่ผิวดินให้เรียบอีกที เกลี่ยให้ทั่วๆและชุ่มๆครับ ดินจะอ่อนนุ่ม 


การทำผิวของพื้นดินสามารถทำได้หลายวิธีครับ ที่ผมใช้เป็นประจำจะใช้ดินหรือทรายที่หาซื้อหรือเก็บมาจากที่ต่างๆ เพื่อจะได้ลักษณะของดินหรือหินที่หลากหลาย นำมาให้ดูเป็นตัวอย่างบางส่วนครับ ซึ่งจะมีที่นอกเนือจากนี้ไปอีกตามแต่จะหามา เพื่อความสะดวกในการเลือกนำมาใช้ให้สอดคล้องไปกับสภาพภูมิประเทศที่เราจะเลือกทำครับ ในภาพตัวอย่างจะเห็นลักษณะและขนาดที่แตกต่างกันไป ไล่จากซ้าย

1. ทรายละเอียด เป็นทรายสำหรับงานฝีมือ ซื้อมาจาก B2S มีความละเอียดของเม็ดทรายมากกว่าทรายในธรรมชาติทั่วๆไปครับ ใช้โรยทำพื้นดินทั่วไป
2. หินทรายสำหรับห้องน้ำแมว (Cat litter) เป็นหินกรวดหรือหินทรายขนาดเล็ก มีให้เลือกหลายลักษณะ สามารถหาซื้อได้ตามซูเปอร์มาเก็ตในแผนกสัตว์เลี้ยง
ใช้ทำเป็นก้อนหินขนาดต่างๆในฉากครับ
3. ดินที่ตักเก็บมาจากข้างถนน นำมาร่อนด้วยกระชอนร่อนแป้งให้ได้เม็ดดินที่ละเอียดขึ้นครับ ใช้โรยทำพื้นผิวดินทั่วไป
4. ทรายที่ตักเก็บมาจากพื้นที่ก่อสร้างทั่วไปครับ ใช้โรยทำพื้นผิวดินทั่วไปเช่นกัน
5. อิฐมอญนำมาทุบให้ละเอียด เอาไว้ใช้ทำเป็นเศษซากปรักหักพังของตึกที่โดนทำลาย หรือเป็นก้อนหินขนาดต่างๆ 



นำทรายละเอียดมาโรยลงไปให้ทั่ว (หาซื้อได้จาก B2S หรือจะเก็บจากตามข้างถนนก็ได้ครับ ) แล้วเอามือกดหรือตบเบาๆให้ทั่ว เพื่อให้ทรายแนบและจมลงไปในดิน จากนั้นคว่ำฐานและเคาะให้ทรายส่วนเกินออกไป นำล้อรถและตีนตะขาบมากดลงบนพื้นผิวตามที่ต้องการครับ  


ส่วนของพื้นดินที่เหลือ เพื่อความประหยัดใช้ปูนพลาสเตอร์เทลงไปให้ได้ระดับเดียวกัน และเอาทรายโรยทับลงไปเช่นเดียวกันครับ ในขั้นตอนนี้ ถ้าจุดไหนที่ทรายดูน้อยไปก็ให้โรยเพิ่มลงไป แล้วใช้กาวลาเท็กซ์ผสมน้ำมาทาชโลมให้ทั่วอีกที เพื่อให้ทรายยึดติดกับพื้นผิวได้แน่นขึ้นครับ (จะเห็นว่าในส่วนที่ต้องมีการกดรอยต่างๆ จะใช้ดินปั้นเพื่อให้สามารถทำงานได้ง่ายขึ้น ส่วนพื้นดินในส่วนอื่นๆจะใช้ปูนพลาสเตอร์แทนได้ เพราะไม่ต้องเน้นรายละเอียดอะไรมาก) 


ในช่วงที่ดินและปูนเซ็ทตัว ใช้คัตเตอร์เฉือนส่วนของดินและปูนที่เกินออกมาจากขอบให้เรียบร้อยครับ จากนั้นทิ้งไว้ซัก 1 คืนให้แห้งสนิท และใช้กระดาษทรายเบอร์ละเอียดขัดให้ขอบของผิวดินที่ทำไว้และไม้บัลซ่าเรียบเสมอกัน เอาแชลคมาทาให้เรียบร้อย และทิ้งไว้ให้แห้งสนิทครับ (ส่วนในกรณีที่เมื่อดินแห้งแล้วเกิดการแตกเป็นรอยร้าวบนพื้นนั้น ให้ใช้ทรายผสมกาวลาเท็กซ์ ทาอุดไปตามรอยร้าวนั้นครับ )

ในการทำต้นหญ้านั้น ผมจะทำ 2 ขั้นครับ เพื่อจำลองสภาพในธรรมชาติ ที่จะมีทั้งหญ้ายาวและสั้น ดูรกและไม่เป็นระเบียบ ถ้ามีหญ้าที่ยาวและรกอย่างเดียวก็ได้เช่นเดียวกันครับ แต่หญ้าที่สั้นอย่างเดียวนั้น จะดูเหมือนสนามหญ้าหน้าบ้านที่โดนตัดจนเตียนครับ
หญ้าสั้นหรือละเอียดนั้น ซื้อมาจาก B2S ครับ ขายเป็นห่อ ไม่ทราบยังมีอยู่รึเปล่า หรือจะใช้หญ้าเทียมแบบแผ่นมาขูดเอาก็ได้เช่นเดียวกันครับ ทากาวลาเท็กซ์ในบริเวณที่ต้องการ เอาหญ้ามาโรยให้ทั่วๆครับ จากนั้นคว่ำและเคาะส่วนเกินออก 



ส่วนหญ้ายาวนั้น ต้องทำขึ้นมาเองครับ ด้วยเชือกปอ หรือเชือกจากถุงกระสอบ นำมาคลายเกลียวออก เพื่อที่เวลาตัดออกมาเชือกจะไม่จับกันเป็นก้อนครับ ตัดให้มีขนาดสั้นบ้างยาวบ้าง ยาวประมาณ 3-5 มม. ทำเก็บใส่กระปุกไว้ครับ 


เวลาใช้ก็ทากาวลาเท็กซ์ทับลงบนพื้นหญ้าสั้น แล้วเอาปากคีบ คีบหญ้ายาวไปโรยและกดลงไปครับ จากนั้นก็คว่ำและเคาะออกเช่นเดียวกัน ถ้าจุดไหนที่หญ้าดูเกาะกันเป็นก้อนไม่เป็นธรรมชาติ หรือรกเกินไป ก็ใช้ปากคีบ คีบออกเช่นเดียวกัน 


ส่วนกอหญ้ายาวๆนั้นก็ใช้ เชือกปอเช่นเดียวกันครับ โดยใช้มือจับไว้ข้างหนึ่งแล้วตัดออกมาให้ยาวหน่อย ทากาวลาเท็กซ์ที่ปลายด้านที่ตัด แล้วติดลงบนฐาน ซึ่งตรงจุดนี้ถ้าอยากให้กอหญ้าดูหนาๆรกๆ ก็ต้องจับปลายเชือกมาทบกันหลายๆชั้นหน่อยครับ แล้วค่อยใช้ปากคีบมาจัดทรงของกอหญ้าให้ดูกระจายและแผ่ออกเป็นวงกลมอีกที
สำหรับต้นไม้ที่เห็นนั้นเป็นดอกไม้แห้งครับ ซื้อมาจากร้านขายดอกไม้แห้งในสวนจตุจักร เลือกรูปแบบที่มันดูขนาดไม่ใหญ่จนเกินไป เดี๋ยวจะโอเวอร์สเกลครับ เจาะรูที่ฐานด้วยสว่านมือ ทากาวลาเท็กซ์ แล้วเสียบลงไปทีละช่อ จัดเป็นพุ่มให้ดูสวยงามตามความต้องการครับ 




จากนั้นก็ทิ้งไว้ซัก 1 คืนครับให้กาวแห้งสนิท และกั้นขอบฐานทั้งหมดด้วยเทปกาวนิตโต้เพื่อเตรียมสำหรับการทำสี

การทำสีนั้น ผมใช้สีกระป๋องของเลย์แลนด์ มาฉีดใส่ฝา และผสมสีเองทั้งหมดครับ เพื่อความประหยัด ที่ผ่านมาจะไม่ได้กล่าวถึงเรื่องของการทำสี เพราะวิธีในการทำสีนั้นสามารถทำได้หลากหลายตามความถนัดของแต่ละคน และสีของพื้นดินและต้นไม้ต่างๆนั้นจะไม่ตายตัวครับ เพราะสีในธรรมชาตินั้นจะมีหลากหลายมาก และเปลี่ยนแปลงไปตามสภาพภูมิประเทศและสภาพภูมิอากาศ ดังนั้นจึงไม่อยากเจาะจงว่าต้องใช้สีนั้นสีนี้ครับ เพียงแค่ผสมออกมาแล้วให้สีมันไปในโทนเดียวกับธรรมชาติก็พอครับ
ส่วนสีของฉากของชนบทในยุโรปแบบที่ผมทำชิ้นนี้ พอจะให้เป็นแนวทางในการผสมสีได้คร่าวๆ ดังนี้ครับ

Leyland
สีพื้นดิน - ใช้สีเหลืองรองพื้นเยลโลว์โอ๊ค PY-704 ผสมกับ brown L-33 เป็นหลัก และเติม Light brown L-48 กับ White L-01 หรือ Ivory L-12 อ่อนแก่ตามแต่ความชอบครับ
สีต้นไม้ใบหญ้า - Lime green L-20 เป็นหลักครับ ผสมกับ Larch green L-11 เพื่อให้สีเข้มขึ้น และผสม Sherbet green L-171 และ Ivory L-12 เพื่อให้ได้เฉดสีที่อ่อนลงครับ

Gunze
สีพื้นดิน - เบอร์ 310 ผสมกับ เบอร์ 313 หรือ 318 พยายามผสมให้สีออกไปทางสีของกาแฟใส่นมครับ อาจจะเติมสีขาวช่วยด้วย
สีต้นไม้ใบหญ้า - เบอร์ 319 ผสมกับ เบอร์ 303 ให้เข้มขึ้นครับ หรือจะผสมเบอร์ 312 หรือ เบอร์ 51 หรือ สีเหลือง เพื่อให้สีดูสว่างขึ้น

เริ่มทำสีส่วนของพื้นดินก่อน ภาพที่ลงให้ดูนั้นเป็นการพ่นรองพื้นขั้นแรกครับ สีทั้งหมดจะยังดูเข้มอยู่จากนั้นผสมสีให้อ่อนลงและพ่นลงไปอีกรอบ แต่ไม่จำเป็นต้องทับสีเดิมหมดทุกส่วนครับ เพื่อจะได้ดูมีน้ำหนักอ่อนแก่ของสี ไม่เรียบเป็นสีเดียวกันไปหมด
สำหรับท่านที่ไม่มีแอร์บรัชก็ใช้การทาได้เช่นเดียวกันครับ อย่างที่ทำมาให้ดูผมไม่ได้ใช้การพ่นทั้งหมด บางส่วนก็เป็นการทาเอา เพื่อที่สีจะได้ดูมีน้ำหนักที่แตกต่าง เลือกพู่กันที่เบอร์ใหญ่หน่อย ทาสีลงไป แล้วเอาพู่กันจุ่มทินเนอร์ มาทาเกลี่ยให้สีดูเข้มและจางต่างกันครับ จากนั้นก้ผสมสีที่อ่อนกว่า และดรายบรัชบางส่วนให้มีน้ำหนักของสีเพิ่มขึ้น ส่วนของต้นหญ้าก็ทาได้เช่นเดียวกัน แต่อาจจะใช้เวลามากกว่าพ่นหน่อยนึง แต่ถ้าได้ทำบ่อยๆและจับทางได้จะชำนาญและทำออกมาได้ดีไม่แพ้การพ่นเลยครับ 



เมื่อพ่นสีหรือทาเสร็จแล้ว ตอนนี้สีอาจจะยังดูโดดๆกันอยู่ครับ ใช้สีน้ำมัน raw umber ผสมกับ turpentine ให้ใสๆครับ แล้วทาชโลมให้ทั่ว จะทำให้สีดูกลมกลืนกันมากขึ้น และเน้นให้รายละเอียดต่างๆชัดเจนขึ้น แต่สีจะเข้มขึ้นหน่อยนึงครับ ลองสังเกตุดูจากต้นหญ้าด้านขวาของภาพที่ลงสีน้ำมันแล้ว กับ สีต้นหญ้าตรงกลางภาพที่ติดกับแนวถนน 


ขั้นตอนสุดท้ายคือการใช้สีพื้นดินที่ลงไว้ทีแรก มาผสมให้สีอ่อนลงนิดหน่อย และผสมทินเนอร์ให้สีเจือจางมากๆหน่อย นำมาพ่นคลุมตามพื้นดิน (over spray) และขอบๆของแนวต้นหญ้า รวมถึงพ่นคลุมทั้งต้นไม้และต้นหญ้าบางส่วนให้ดูเป็นคราบฝุ่นที่ปลิวมาติดครับ และคุมโทนของสีของพื้นดินและต้นหญ้าให้สีไม่ดูโดดและตัดกันจนเกินไป จากนั้นก็ใช้เคลียร์ด้านมาพ่นทับเก็บงานให้เรียบร้อยอีกครั้งก็เสร็จสมบูรณ์ครับ 






วิธีการนี้สามารถนำไปทำฐานได้หลากหลายลักษณะครับ ตามตัวอย่างที่นำมาลงให้ดู เป็นการประยุกต์ให้มีส่วนของเนิน ภูเขา หรือพื้นที่ลาดเอียงเพิ่มขึ้นมา ซึ่งวิธีการทำจะเป็นแบบเดียวกันทั้งหมด แต่เลือกใช้โฟมมาตัดเป็นเนินเขาแล้วใช้ดินหรือปูนพอกทับลงไป หรือใช้แผ่นปูนมาแกะเป็นลายกำแพงหิน เพื่อให้ตัวฐานนั้นดูมีความน่าสนใจเพิ่มมากขึ้นครับ




2 comments:

  1. เป็นประโยชน์มากๆเลยครับ

    ReplyDelete
  2. เป็นประโยชน์มากๆครับ ติดตามต่อครับ

    ReplyDelete